ถาม :  เรื่องทอง
      ตอบ :  มันไม่ได้อยู่ตรงนั้น บอกเขาไปหลายทีแล้วว่าถูกที่แต่ผิดทิศยืนยันเขาไปหลายทีแล้วว่าตรงนั้นไม่เจอ จริง ๆ ถ้าเขาไม่ไปมาร์คจุดเอาไว้ให้ดาวเทียมมันส่องเฉพาะที่ มันกวาดกว้างหน่อยเดี๋ยวมันเจอแล้วมันห่างกันประมาณ ๒ กิโลเท่านั้นเอง
      ถาม :  แล้วที่เขาบอกว่ามีหลายที่จริงหรือเปล่าครับ ?
      ตอบ :  ไม่ได้มีแต่ทางเมืองกาญจน์ สระบุรีก็ตั้งหลายที่ ญี่ปุ่นมันไปตั้งสระบุรีตั้งนาน ที่ทองผาภูมิมีอีกจุดหนึ่ง ผู้ใหญ่เล็กเจ้าพ่อทองผาภูมิเขาไปขุดมาแล้ว .... ปางตายเลย ผีมันเฉ่งเอา ต้องมาให้รดน้ำมนต์อะไรกันอยู่ ยังคิด ๆ อยู่ว่าถ้ามันขุดได้ไม่แบ่งให้จะเลิกรดน้ำมนต์ให้มันแล้ว
      ถาม :  ได้ไปดูบ้างไหมครับ ?
      ตอบ :  ไม่รู้จะดูไปทำไม เพราะไอ้ที่ถ้าต้องการมันมีเยอะกว่านั้น เมื่อวันที่ ๒๒ ก.พ. กำลังทำวัตรกันอยู่ ๔- ๕ องค์ และก็โยมหลายคนมีเสียงครืนโบสถ์สะเทือนทั้งหลังเลย เราก็ว่า...อะไรวะ ? พอกำหนดใจดูเห็นเทวดา ๘ องค์ เราก็ถามท่านว่าทำอะไร ท่านบอกว่าขนทองมาฝากหน่อยครับ ทองล้วน ๆ ขนมาฝากหน่อยยัดอยู่ใต้โบสถ์ ใครอยากได้มาขุดเอา
      ถาม :  มาได้จริงหรือครับ ?
      ตอบ :  เอ้า !เรื่องของเทวตานุภาพเขาคิดให้ไปทางไหนมันก็ไปตรงนั้น
      ถาม :  ตามหลักวิทยาศาสตร์ ... (ไม่ชัด) ..... ของมันเป็นวัตถุมันผ่านใต้ดิน ?
      ตอบ :  ของมันเป็นวัตถุมันก็สามารถแปลเป็นพลังงานชั่วคราวกลับเป็นวัตถุใหม่ มันอยู่ที่การจัดโมเลกุลเท่านั้นเอง นี่อธิบายตามแบบวิทยาศาตร์เลยนะ (หัวเราะ) ของเขาแค่คิดมันเป็นแล้ว คราวนี้ของเรามันต้องผ่านขั้นตอนของการสลายตัวของสสารมาเป็นพลังงาน แล้วค่อยกลับจากพลังงานมาเป็นสสารอีกครั้งหนึ่ง
      ถาม :  อันนี้เข้าขั้นปรมาณู
      ตอบ :  ใช่ แต่คราวนี้ของอภิญญาของเขาไม่ใช่อย่างนั้น ของความเป็นทิพย์ไม่ใช่อย่างนั้น เขาแค่คิดมันไปแล้ว มันเร็วกว่าเยอะ เพราะฉะนั้นทางวิทยาศาสตร์ที่เข้าถึงปรามาณูได้มันแค่สกิด ๆ เท่านั้นเอง มันยังไม่ใช่เนื้อแท้มัน จนทุกวันนี้วิทยาศาสตร์มันยังคิดเครื่องย้อนอดีต ย้อนไปอนาคตยังไม่ได้เลยใช่ไหม แต่เรื่องของจิตศาสตร์ที่พระพุทธเจ้าท่านสอนมา ๒,๐๐๐ กว่าปีแล้ว อตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ทุกวันนี้มีใครสามารถถ่ายรูปเทวดาได้มั่งล่ะ ? ไม่มี... เครื่องมือมันไปไม่ถึง แต่ทิพจักขุญาณ เขาเห็นอยู่ว่าเทวดาเยอะแยะไปหมด เดือดร้อนขึ้นมาขอให้ท่านช่วยอีกต่างหาก
              .....บอกกับท่านว่าในเมื่อฝากเอาไว้แล้วแปลว่าว่างงานใช่มั้ยล่ะ ? ช่วยหาเงินให้ด้วยแล้วกัน (หัวเราะ) อยู่เฉย ๆ ได้ศาลามาอีกหลังหนึ่ง ถ้าท่านไม่ช่วยหาเงินให้เราก็แย่เหมือนกันนะ เรื่องของพระไตรปิฎกกล่าวถึงเทวดาไว้จนนับครั้งไม่ถ้วน แต่ว่านักศึกษาสมัยหลังมันเรียนกันมากเกินไป เรียนมากเกินไปมันก็ปฎิเสธผี ปฎิเสธเทวดากันหน้าตาเฉย อะไรที่เป็นธรรมาธิษฐาน ... ไม่เอา มันเอาปุคลาธิษฐานไว้ก่อน
              ธรรมาธิษฐานเรื่องของบุญเรื่องของบารมีมันไม่เอาหรอก มันเอาปุคลาธิษฐาน คือว่ามนุษย์ขี้เหม็นอย่างมันต้องทำได้ มันถึงจะเชื่อส่วนใหญ่พวกนี้มันอัศจารรย์มาก มันเรียนเก่งปัญญามันเยอะ ในเมื่อเรียนเก่งปัญญาเยอะกูยังทำไม่ได้ใครจะทำได้ ไปคิดอย่างนั้น เลยปฎิเสธกัน
              ในขณะเดียวกันเด็ก ๆ เรียนแค่ ป.๓ - ป. ๔ ฝึกมโนมยิทธิมันไปกันรื่นเลย เคยเล่าให้ฟังมั้ย ว่าเคยฝึกเด็กอยู่คนหนึ่งอายุไม่เกิน ๕ ขวบ ฝึกเขาอยู่วันนั้นพอเขาได้มโนมยิทธิแล้วรุ่งขึ้นแม่เขาพาพี่เขามาด้วยพาตัวเขามาด้วย มากราบขอบคุณเป็นการใหญ่เลย ถามว่ามันเรื่องอะไร เขาบอกว่าน้องเขากลับบ้านไป เขาฝึกพี่เขาได้ด้วย ถามว่าฝึกยังไง บอกว่าน้องเขานั่งสมาธิอยู่ พี่เขาถามว่าเอ็งทำอะไร บอกว่าไปเที่ยวสวรรค์ พี่เขาถามว่าไปยังไง น้องบอกว่าก็หลับตาสิไปด้วยกัน
              แค่นั้นน่ะมันทำได้แล้วน่ะ ไอ้เราสอนแทบตายเด็กมันพูดประโยคเดียวเอง เด็กเขามีภาษาของเด็กเขา เขาพูดกันง่าย ๆ เขาเข้าใจของเขาอย่างนั้นน่ะ แค่หลับตาแล้วไปได้พี่ก็... เฮ้ย ! ไม่เห็นยาก กูก็หลับมั่งแล้วมันก็ได้จริง ๆ เป็นไง.... อายเด็กไหมล่ะ ? เราสอนแทบตายเด็กมันพูดประโยคเดียวเองน่ะ แม่เขาอุตส่าห์มาขอบคุณซะอีก
              เออ... เมื่อคืนแปลก เมื่อคืนนี้มันป่วยมาก ความจริงก็ป่วยคนเดียวไม่มากหรอก อาการมันแย่หน่อย เจ้าปิงกับจิมมี่มันนวดให้น่ะ หลับตาลงแปลกใจวันนี้ทิพจักขุญาณมันผ่องใสเป็นพิเศษ ปกติเรื่องที่เรารู้เห็นเนี่ยส่วนใหญ่มันได้เฉพาะจุดมันได้ได้รายละเอียด นี่ประเภทเล็งรายละเอียดได้ทีละจุด ๆ เลย
              มันแปลกของมันเหมือนกัน อยู่ ๆ มันมาเองนะ ของเรายังทำตัวเหมือนเดิมมันไม่ได้ดีขึ้นมากมาย แต่ว่าอยู่ ๆ ทิพจักขุญาณมันดีขึ้น ตลกเหมือนกัน มันมาของมันเองประเภทถ้าหากว่าดูต้นไม้นี่แยกนับได้ทีละใบเลย ก่อนหน้านั้นเรารู้แค่เลา ๆ ว่ามันเป็นต้นไม้เท่านั้นเอง สงสัยกำลังของพระหรือเทวดาท่านช่วย ลำพังของเราเองมันเห็นแค่ตอนใกล้ค่ำได้ถือว่าชัดมากแล้ว
      ถาม :  ช่วงนั้นพอดี.....(ฟังไม่ชัด)...........
      ตอบ :  เอานั่นแหละ ตอนนั้นอยากดูอะไร อยากเห็นอะไรก็เลยเพลินเลยเพราะมันนวดอยู่เป็นชั่วโมง เป็นไข้ขึ้นมาเมื่อวานโดนฝนไปทำประทักษิณมารอบวัดพระแก้วฝนตกตลอด ( หัวเราะ) กว่าจะครบรอบเปียกโชกเลย
      ถาม :  รอบใหญ่เหรอคะ ?
      ตอบ :  รอบใหญ่ รอบนอก รอบวัง (หัวเราะ) รอบกำแพงวัง (หัวเราะ) มากรุงเทพ ฯ ก็ไปไหว้พระแก้ว เมื่อวานนี้เฮี้ยนเดินรอบเลย ภาวนาไปด้วย มัน.... กว่าจะรู้ตัว ตอนนั้นไม่เป็นไรนะ มาอยู่ที่นี่พอสัก ๖ โมงเย็นไข้เริ่มจับ ตอนเช้าฝนตก ไปไหว้พระที่วัดโพธิ์ด้วย พระที่วัดโพธิ์ท่านน่ะ พระสำคัญ ๆ โบราณของเราเยอะมาก
              วัดอื่น ๆ ก็เยอะในกรุงเทพ ฯ แต่ว่าส่วนใหญ่จะไม่ค่อยรู้กัน โดยเฉพาะวัดโพธิ์นี่อยู่ตรงนั้นบานเลย เพราะว่าในสมัย ร. ๑ หัวเมืองฝ่ายเหนือของเรานี่โดนศึกโดนสงครามมันบ้านแตกสาแหรกขาดวัดวาอารามรกร้างหมด ท่านก็ให้ช่วยกันขนพระพุทธรูปที่อยู่แต่ละวัดนี้ลงมากรุงเทพ ฯ เพื่อที่จะได้สร้างวัดสร้างวิหารให้ท่านได้สมเกียรติหน่อย คือยังไง ๆ ก็บูชาให้สมกับการเป็นพระพุทธเจ้าหน่อย
              ช่วงนั้นเฉพาะพระสำคัญ ๆ ที่เขาช่วยกันขนลงมากรุงเทพ ฯ นี่ ๑,๔๐๐ องค์ได้มั้ง ขนาดหลวงพ่อโตวัดสุทัศน์องค์ใหญ่แค่ไหนท่านยังเอาลงมาเลย อยู่ที่วัดโพธิ์บานเลย ที่ตามระเบียงน่ะไปมองดู นั่นน่ะทั้งนั้นเลยของเก่า ๆ ทั้งนั้นแหละ องค์ที่เป็นประธานในโบสถ์ คือ พระพุทธปฎิมากร แล้วก็หลวงพ่อพระโลกนาถ พระยืนที่หล่อด้วยสำริดที่สูงที่สุดในประเทศไทยเลย หล่อใหญ่ขนาดนั้นถือว่ามโหฬารมากแล้ว แล้วยังมีหลวงพ่อพระนอน
              ไปวัดโพธิ์ต้องไปไหว้พระนอน หลวงพ่อนาคปรก ตั้งแต่สมัยโน้น... คือโบสถ์วัดโพธิ์จะมีวิหาร ๔ ทิศ แต่ละทิศจะมีพระประจำวันอยู่ ทิศตรงหน้าพระประธานเลยก็คือหลวงพ่อพระโลกนาฏพระยืนปางห้ามญาติ แล้วก็ทางด้านหลังก็เป็นหลวงพ่อนาคปรก ทางด้านขวามือจะเป็นปางปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ทางซ้ายมือจะเป็นปางป่าเลไลย์ แล้วก็ยังรอบ ๆ อีกล่ะ เดินดูไปเหอะไม่รู้เบื่อหรอก เจ๊หลินเขาไปดูวัดสุทัศน์ ไหว้พระศรีศากยมุนีมา ตกใจ... ไม่นึกเลยว่ากรุงเทพ ฯ จะมีพระประธานใหญ่ขนาดนี้
              ส่วนใหญ่องค์ใหญ่ ๆ จะอยู่อยุธยาใช่ไหม อย่างหลวงพ่อวัดพนัญเชิง หรือไม่ก็หลวงพ่อวัดมงคลบพิตร เพิ่งจะรู้ว่ากรุงเทพ ฯ ของเราน่ะองค์เบ้อเร่อเท่อ วัดสระเกศก็ตั้งหลายองค์ วัดสระเกศที่มีศาลามีทั้งพระยืน พระนั่งพระเก่าทั้งนั้นแหละ
      ถาม :  ผลงานของทุเรียนค่ะ
      ตอบ :  ธรรมดา.. อ้วนปีละครั้ง (หัวเราะ) หลังทุเรียนก็ผอมใหม่ ต้องท่านน้อย ท่านน้อยนั่นคู่หูกัน น้องชายด๊อกเตอร์ปริญญา บวชพร้อมกัน บวชรุ่นนั้น ๓๖ องค์ อาจารย์ยกทรงถามหลวงพ่อบอกจะเหลือไหมครับท่าน ? ท่านบอกว่าเหลือเล็ก ๆ น้อย ๆ ตอนแรกนึกว่าเหลือไม่กี่องค์ ที่ไหนได้เหลือเล็กกับน้อย ๒ องค์ นึกว่าท่านพูดเล่นเหลือเล็กกับน้อย ๒ องค์จริง ๆ
              หลังจากหลวงพ่อมรณะภาพได้ปีกว่า เจ้าน้อยก็สึกไปด้วย ๘ พรรษา เสียดาย .... เจ้านั่นจะอ้วนปีละครั้งจริง ๆ เขาชอบฉันทุเรียนจริง ๆ ถ้าเป็นคนอื่นไอ้ขนาดนั้นมันตายนะ ไปบ้านคุณสมบูรณ์ เวสารัชชานนท์ มันบอกว่า ลูกกูกินทุเรียนไป ๔ ลูก เราว่า ๔ ลูกมันกินเข้าไปได้ยังไงวะ แต่ปรากฏว่าวันนั้นเห็นอยู่ที่หอฉันทางด้าน ๙ พี่น้องตระกูลเวสารัชชานนท์ถวายหลวงพ่อทีหนึ่งหลาย ๆ ตัน ทุเรียนน่ะ แล้วส่วนใหญ่มันจำเพาะให้อยู่ตรงหน้าตึกพอดีก็เวรของเรา ต้องไปขนทุเรียนให้เขา แต่ตัวเองฉันไม่ได้ พอฉันปุ๊บความดันมันจะขึ้น
              ท่านน้อยฟาดเพลินเลยวันนั้นมันฉันของมันไปเรื่อย ๆ พระองค์อื่นฉันเสร็จหยุดนั่งรอ นั่งรอจนกว่าองค์สุดท้ายเสร็จจะได้ยถา ฯ ใช่ไหม ไม่ได้ยถา ฯ สักทีหนึ่งหรอก เสร็จแล้วสายตาทั้งหมดหันไปมองไอ้ท่านน้อยอยู่องค์เดียว สงสัยพลังจิตจะเเรงเกินไป (หัวเราะ) ไอ้ท่านน้อยรู้ตัวมันหยุดมองซ้ายมองขวา เฮ้ย ! ทุกคนมองกู... หยุดก็ได้วะ (หัวเราะ) วางช้อนให้เขายถา ฯ พอยถา ฯ เสร็จไอ้เราข้องใจมากนับว่ามันฉันเข้าไปเท่าไหร่เม็ด ถาดหนึ่งนับได้ ๒๒ เม็ด ฉันเข้าไปได้ยังไงทุเรียนหมอนทอง ๒๒ เม็ด ตอนแรกบอกว่ากินคนเดียว ๔ ลูกเรายังไม่เชื่อนะ ไอ้ ๒๒ เม็ดมันน่าจะเกิน ๔ ลูก ถึงมันไม่เกินมันก็ใกล้เคียงแล้วมันยังไม่อิ่มด้วย (หัวเราะ) มันบอก... หยุดก็ได้วะ (หัวเราะ) กินลงไปได้ยังไง ข้องใจมากเลย
              นั่นแหละเขาพูดด้วยความภูมิใจ เขาบอกกูไม่เป็นขี้กลากหรอกกำมะถันมันเยอะ (หัวเราะ) ทุเรียนกำมะถันมันเยอะที่มันมีกลิ่นน่ะ กรดกำมะถันเยอะทำให้มีกลิ่น มันบอกมันไม่เป็นขี้กลากหรอก ไม่อาบน้ำก็อยู่ได้กำมะถันเยอะ (หัวเราะ) ขืนไปบ้าตามมันเราตายแน่เลย ในแต่ละปีฉันทุเรียนได้ไม่เกินหนึ่งเม็ดและฉันแต่ละทีนี่ทรมานไปเป็นเดือน ความดันมันขึ้น อีกไม่กี่วันต้องไปจันทบุรีอีกแล้ว บ้านลุงเชิญเขานิมนต์ไว้ต้องไปทุกปี บอกถึงตัวเขาตายไปก็จะให้ลูกหลานนิมนต์ต่อ
      ถาม :  ที่จันทบุรีเขามีเขาคิชกูฎ ต้องไปปีละครั้งถึงจะดี ?
      ตอบ :  ถ้าไปได้ทุกเดือนยังดีแข็งแรงขึ้น กว่าจะถึงยอดแทบตาย (หัวเราะ) เดือนละครั้งยิ่งดี ทางมันขึ้นอย่างเดียวจริง ๆ ถึงโอกาสจะพักแทบจะไม่มีเลย มันมีแต่ขึ้น ๆ ๆ และก็ขึ้น และที่แน่ ๆ คือ หน้าที่ฝนลงแล้วนี่ทากตั้งแต่พวกหินเจดีย์หินอะไรพวกนั้นไปนี่ทากเพียบเลย ในสมัยที่ไปไม่รู้จะหลบไปทางไหนเพราะว่าตอนที่ไปทางรถยังไม่มี เป็นทางป่าเสร็จแล้วญาติโยมก็บอกว่า ปิดป่าแล้วอาจารย์จะขึ้นได้ยังไง ปรากฏว่าลุยขึ้นไปจนได้ไม่เห็นจะมีปัญหาเลย
      ถาม :  ข้างบนมีอะไรพิเศษครับ ?
      ตอบ :  เยอะ มีพระพุทธบาทอยู่ แล้วก็มีหินใหญ่คล้ายพระบรมธาตุอินแขวน แต่ทว่าของอินทร์แขวนเขาจับโยกได้ แต่ของเรานี้ฝังดินไว้เกือบครึ่ง ก้อนนั้นถ้าหลุดลงมาเมื่อไหร่ละก็ฟ้าถล่มดินทลายเมื่อนั้นแหละ เพราะว่าเราอยู่ไกล ๆ มองไปจะเห็นหินที่ตรงนั้นสักเท่าบ้านได้มั้ง เขาเรียกหินลูกบาตร เสร็จแล้วทางด้านล่างลงมาตรงเชิงผาจะมีรอยเท้ากับมือคนอยู่ เขาเรียกรอยพระหัตถ์ เขาเชื่อว่าพระพุทธเจ้าไปค้ำเอาไว้ หินก้อนนั้นมันเลยไม่หล่นลงมา
      ถาม :  แล้วมันเป็นของจริงทั้งหมดเหรอครับ ?
      ตอบ :  ของจริงเขาเชื่อว่าจริงก็จริง เพราะว่ามันอยู่ที่ศรัทธา ถ้าศรัทธาปักใจมั่นแล้วอะไรก็ได้ จะจริงจะปลอมเหมือนกันหมด
      ถาม :  อย่างนี้ผมอยู่ที่บ้านไหว้พระพุทธเจ้าก็ถึงเลย ?
      ตอบ :  ถึงเลย ก็อยู่ที่เรา แต่ว่าส่วนใหญ่แล้วที่เขาไปก็คือถ้ามันได้เหนื่อยหน่อยรู้สึกได้บุญเยอะขึ้น แต่ความจริงถ้าเหนื่อยแล้วอารมณ์เสียบุญมันน้อย
      ถาม :  ...............(ไม่ชัด)...........
      ตอบ :  คือมันคล้าย ๆ กับว่าจะไปว่า ๆ ชาวบ้านเขาออกกฏหมายมาเพื่อควบคุมพระมันก็ว่าไม่เต็มปากที่มันบวช ๆ อยู่ทุกวันนี้มันจะเป็น พระจริง ๆ มันยากเต็มทีมัวแต่ไปทำเละเทะให้ชาวบ้านเขาเดือดร้อนอยู่เรื่อย เป็นหน่วยงานต่างหากที่ปกครองกันเองเหมือนแต่ก่อนคนที่จะเข้าไปควบคุมเนี่ยทำได้ แต่ว่าต้องมีความเข้าใจในระบียบวินัยของสงฆ์อย่างลึกซึ้ง แล้วก็ต้องมีจิตใจที่ยุติธรรมด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นนี่เขาเละทั้งนั้นเลย
              จนกระทั่งถึงขนาดว่าจะเสนอให้ว่าขึ้นตรงอยู่ต่อท่านนายกรัฐมนตรีใช่มั้ย ให้ขึ้นต่อนายกรัฐมนตรี ท่านสุรินทร์ พิศสุวรรณ หรือว่าท่านวันนอร์ ขึ้นมาเป็นนายกมันแย่เหมือนกันน่ะ เพราะเขาคนละศาสนากันใช่ไหม ? มันไม่ได้แย่ตรงไหนหรอก....มันแย่ตรงที่เขาไม่สนับสนุนเราเลย
              เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะออกมาแบบไหนก็ตามมันก็รู้สึกว่าความที่เคยสะดวกและที่เคยอะไรอยู่คงลำบากกันแหละ และมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ว่าเขาว่าแต่ละวัดจะมีทรัพย์สินเยอะใช่ไหม ? จะออกกฏหมายมาจัดการกับทรัพย์สินของสงฆ์ แหม... อยากให้มันออกจังเลย คือ.. ถ้ามันออกมาเมื่อไหร่ เราจะถามว่าหนี้กูมึงช่วยไหม ? (หัวเราะ) ของเรานี้ติดบัญชีติดแดงโร่เลย จะจัดการแต่คนมีเงินไอ้คนไม่มีเงิน จะจัดการไหม ?
      ถาม :  แล้วสุดท้ายจะดีหรือร้ายครับ ?
      ตอบ :  เดี๋ยวดูเขาก่อนสิว่าเขาจะตกลงออกมาในแง่ไหน คิดว่าถ้าหากว่ามันถึงจุดสุดท้ายจริง ๆ สมเด็จพระสังฆราชท่านคงต้องออกความเห็น เพราะว่าตอนนี้นี่ยังไม่ขึ้นไปถึงท่าน เขายกท่านไว้ว่าในที่สูงไม่ใช่ให้ระคายเคือง แต่ว่าสมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบันนี้ท่านพูดน้อยแต่ต่อยหนักนะ ส่วนใหญ่ออกคำสั่งมาซะนิดเดียวใช่มั้ย.. มันไปตีความกันเอง โดยเฉพาะเรื่องอะไรล่ะ ... เรื่องใครล่ะ ตอนนนั้นที่บอกว่าขาดความเป็นพระไปแล้ว จำไม่ได้แล้วคดีดัง ๆ น่ะ