ถาม :  อยากรู้ว่าเป็นคนมีลาภไหม เป็นคนมีอะไรไหม ถ้าไม่มีจะเป็นคนไม่มุ่งทางนี้ไปเลย ?
      ตอบ :  อันนี้ต้องคิดให้ดี ลาภของเรามันเป็นลาภลอยหรือว่าตามปกติ
      ถาม :  ลาภลอยค่ะ
      ตอบ :  คนเราถ้าหากเคยทำทานบารมีมาก็จะมีลาภเป็นปกติ แต่ขณะเดียวกันเรื่องของลาภลอยในลักษณะของการพนันก็ดี จะเกิดจากการทำบุญโดยไม่เจตนาเอาไว้ เห็นเขาทำกองบุญกองกุศลอยู่ควักกระเป๋าร่วมกับเขาไปเลย พวกนี้จะมาในลักษณะของลาภการพนันไม่ว่าจะเป็นเล่นหวยก็ดี เล่นการพนันก็ดี แต่ถ้าตั้งใจไว้ว่าเราจะทำอันนั้นเกิดมาจะรวยไม่ต้องเสียเวลาไปรอลาภลอย
      ถาม :  แต่ทำที่ขอมาอย่างนี้ได้ใช่ไหมคะ ปกติทำแบบนี้มีเพื่อนขอมาก็ทำ แบบนี้บางทีไม่ได้ตั้งใจเขาก็มาเรี่ยไรเรื่อยเหมือนกัน ?
      ตอบ :  ได้อยู่ ทำไป ถ้าหากเผลอเกิดใหม่เมื่อไหร่คงถูกหวยบ่อยเลย
      ถาม :  ชาตินี้มันจะไม่ถูกหรือคะ ?
      ตอบ :  โอกาสมีเหมือนกัน ถ้าระยะเวลามันยาวนานพอ เพราะว่า ทุกสิ่งในปัจจุบันมีผลจากอดีตทั้งนั้น แต่ว่าตอนนี้ถ้าเป็นวินาทีหน้า วินาทีที่ผ่านไปก็เป็นอดีตไปแล้ว ถ้าระยะเวลามันยาวนานพอ การส่งผลมันก็ถึงเหมือนกัน แต่ถ้ายาวไม่พอก็รอเกิดใหม่อีกที
      ถาม :  ตอนนี้ก็อยู่เฉย ๆ นะคะ แล้วมีพระภิกษุสงฆ์ที่เคยทำบุญกับท่านไว้ โทรศัพท์มาบอกก็ไม่อยากเล่น แต่ก็เล่นไปนิดหน่อยก็ยังไม่รู้ว่าจะออก หรือไม่ออกก็ไม่แน่ใจ คือจะเป็นอย่างนี้ จังหวะยังไม่ได้
      ตอบ :  ถ้าออกก็ของวดใหม่ด้วยนะคะ แต่ถ้าไม่ออกอย่าบอกหนูอีกเลย พาหนูเจ๊งไปเยอะแล้ว
      ถาม :  ท่านโทรศัพท์มาประเภทที่จะติดต่อท่านกลับไปไม่ได้ ท่านก็จะโทรมาแบบนี้
      ตอบ :  คราวหน้าถามท่านด้วยว่า หลวงพ่อเจ้าขานี่เป็นกิจของสงฆ์หรือเจ้าคะ ให้ท่านรู้ตัวบ้างเพราะว่าเรื่องพวกนี้มันแปลกเหมือนกับเป็นการลองกำลังใจเราเหมือนกัน พอปฏิบัติไปถึงระดับหนึ่งมันจะเกิดการรู้เห็นขึ้นมา เท่าที่เคยลองมาเพราะว่าทำได้ตั้งแต่อายุยังไม่ครบ ๒๐ ก็ยังไม่ได้บวชมีโอกาสเล่นเยอะ ปรากฎว่า ถ้ารู้แล้วไม่เล่นไม่บอกใคร มันก็จะออกตามนั้นตรง ๆ แต่ถ้าหากว่ารู้แล้วบอกคนอื่นหรือว่าเล่น บอก ๓ ตัว ออก ๒ ตัว บอก ๒ ตัวออกตัวเดียว บอกตัวเดียวไม่ออกเลย เจอมากับตัวเองจนกระทั่งเข็ดเลย
      ถาม :  เจอด้วยตัวเองเลย ?
      ตอบ :  อันนี้ตั้งแต่เป็นฆราวาสแล้วทำได้
      ถาม :  ถ้าทำ ๆ กลายเป็นเพี้ยนไปเลย
      ตอบ :  มันจะไปเลย เพราะกำลังบุญมันไม่เท่ากัน ในเมื่อกำลังบุญมันไม่เท่ากัน เราไปบอกเขากำลังของเขาไม่พอเลขจะเลื่อนไปเลย
      ถาม :  อย่างนี้เราบอกให้เขาหาเองได้ไหมคะ ?
      ตอบ :  ตานี้ถ้าเขาเล่นตามอาจจะพาเราเจ๊งไปอีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นอย่าไปสนใจมันเลยดีกว่า เพราะว่าเคยเจอมาแล้วว่าเล่น ๓ ตัวมันออก ๒ ตัว เล่น ๒ ตัวมันออกตัวเดียว เล่นตัวเดียวไม่ออกเลย
      ถาม :  ................................... ?
      ตอบเรื่องของลาภลอยเกิดจากบุญเก่าที่เราทำมาด้วย ต้องสังเกตว่าเราเคยเล่นเท่าไหร่แล้ว ต่อไปอย่าเล่นเกินนั้น ถ้าเคยเล่น ๒๐ บาท ๕๐ บาทแล้วถูก ก็อย่าไปเล่น ๑๐๐ บาท ต่อไปต่อให้รู้แน่นอนว่ามันออกแน่นอน ก็ยอมทนเล่น ๒๐ บาทต่อไปแล้วมันจะได้
      ถาม :  ช่วงพฤษภาคม มิถุนายน ถูก ๕ งวดติดกัน ถูกล็อตเตอรี่ ๓ ใบมันเป็นอย่างนี้ก็ดี แต่ว่าถูกมาไม่ได้ให้พ่อให้แม่ แล้วก็ทำบุญ
      ตอบ :  พอแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวเอาไปคืนเขาหมด วาระบุญมันส่งผล ถ้าหากมันพ้นวาระนั้นไปมันไม่สงผลอีก เดี๋ยวจะไปส่งคืนเขาหมด คนที่วาระบุญมันส่งผลจริง ๆ มันมีมาแล้ว จ่าตำรวจที่อำเภอตาคลี ไปซื้อหวยมาคู่หนึ่งแล้วเสียดายเงิน เพราะเลขมันตลกประเภทที่ไม่น่าจะออก ก็เลยไปยัดเยียดให้เพื่อน บอกมึงซื้อต่อสิวะ กูซื้อมาเท่านี้ ๆ เพื่อนไม่เอา ก็พยายามยัดให้เขาจนได้ วันรุ่งขึ้นเพื่อนได้ ๖ ล้านบาท ตัวเองจะยิงตัวตาย นั่นแหละคนวาระบุญมันมาถึง มีคนเอามายัดให้ถึงที่เหมือนกัน
      ถาม :  บางทีเขาเอามาให้ บางทีก็ซื้อด้วยความสงสาร ไม่ได้ซื้อเพราะว่าอยากซื้อหวย บางทีก็เป็นอย่างนั้น
      ตอบถ้าหากว่าจะเล่นการพนัน ถามว่าผิดศีลไหม “ไม่ผิด” แต่ว่าขณะเดียวกันถามว่าส่วนของธรรมะมันพร่องไหม “มันพร่อง” เพราะการพนันเขาเรียกว่า “อบายมุข” คือปากทางแห่งความเสื่อม ถ้าเราขาดสติยั้งคิดจะไปทุ่มเทกับมัน แล้วมันจะพาพังไปเยอะ ถ้าหากซื้อเอาไว้ลุ้นเล่นโก้ ๆ เดือนหนึ่งสักคู่สองคู่ อาศัยเงินเดือนอย่างพวกเรามันมีโอกาสซื้อได้อยู่แล้ว เผื่อว่าถ้าบุญมันให้ผลเมื่อไร เราก็มีโอกาสขนาดนั้นมันถูกเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ดี มันไม่ถูกเลยก็ดีก็เรื่องของมัน ถือว่าลุ้นเอามันในชีวิตก็ว่าได้ เราซื้อไว้คู่สองคู่มันไม่หมดเปลืองมาก
      ถาม :  เป็นคนที่ชอบดูหมออยู่เรื่อย หมอดูบอกว่าเป็นดวงลอตเตอรี่ที่ซื้อไว้ เราจะถอยแล้วมันก็เกิดกำลังใจว่าคนเราต้องมีความหวังในชีวิตใช่ไหมคะ ซื้อ ๆ ไปพอมันถูกก็ยิ่งอยากซื้อหนักมากขึ้น
      ตอบ :  ก็ระวังเอาไว้ ก็บอกแล้วถ้าขาดสติเมื่อไหร่ อบายมุขคือปากทางแห่งความเสื่อม มันจะเกิดขึ้นทันที ถ้าหากเป็นเรื่องดีพระพุทธเจ้าท่านไม่ห้ามหรอก เพราะส่วนใหญ่คนเราไม่สามารถจะระงับใจตัวเองได้
      ถาม :  เคยพิจารณาตัวเอง ได้มาช่วยคนอื่นเสียมากกว่า ได้มาก็กระจายออกไปจะไม่ค่อยเหลือหรอกค่ะ
      ตอบ :  รู้จักต่อบุญได้ล่ะดี
      ถาม :  ประเภทได้มาก็ให้พ่อให้แม่เป็นหลักก่อน ลูกหลานก็ตามลม สำหรับตัวเองแทบจะน้อย คงจะเป็นอย่างนั้น แล้วจะทำบุญใส่บาตรตลอด
      ตอบ :  ประเภทซื้อเอามัน อย่างว่านั่นแหละ อย่าไปซื้อเยอะก็แล้วกันนิด ๆ หน่อย ๆ ไปเรื่อย ๆ
      ถาม :  บางทีซื้อเป็นชุดใหญ่ ๆ ค่ะ
      ตอบ :  ไม่ต้องจ้ะ ไม่ต้อง อาตมาเคยเห็น ๖ ตัว ๗ ตัวเต็ม ๆ แล้วมันออกให้เจ็บใจเล่นอย่างนั้นแหละ เพราะว่าเราหาซื้อไม่ได้อยู่แล้ว ไม่รู้ชุดนั้นมันไปอยู่ไหน
      ถาม :  หนูไม่ได้จากฌานสมาบัติ หนูได้จากนิมิตเห็น อย่าง ๖๔๑ ที่ผ่านมา เขาโยนลอตเตอรี่ให้ ๕ ใบเลยนะคะ คือด้วยความตั้งใจคิดว่ามันต้องได้จากลอตเตอรี่ แต่ว่ามันออกจริง ๆ ไม่ได้ซื้อหวยใต้ดิน ลอตเตอรี่มันไม่ถูก ๓ ตัวหน้านี่คะ มันเป็น ๓ ตัวหลัง
      ตอบ :  ไม่เป็นไรจ้ะ งวดหน้าแก้ตัวใหม่ จะยุให้เจ๊งแล้ว ค่อย ๆ สังเกตตัวเองนะ บางทีเขาเรียก กรรมนิมิต การฝันมี ๔ แบบ ได้แก่ ธาตุวิปริต กรรมนิมิต จิตนิวรณ์ เทพสังหรณ์
              ธาตุวิปริต - กินมากท้องไส้ไม่ดี มันก็เลยพาให้ฝัน อันนี้ใช้ไม่ได้
              กรรมนิมิต - บุญกรรมที่เราทำมามันแสดงเหตุให้รู้
              จิตนิวรณ์ - ฟุ้งซ่านกลางวัน เก็บไปฝันกลางคืน ใช้ไม่ได้เหมือนกัน
              เทพสังหรณ์ - เทวดาท่านสงเคราะห์ให้
              เรื่องของ “กรรมนิมิต” เราต้องช่างสังเกตุแล้วจะรู้ว่าถ้าหากว่านิมิตอย่างนี้ ๆ เกิดขึ้น มันจะมีโอกาสได้เงินหรือถูกหวยก็รวยไป ถ้ามันเกิดอย่างนั้น ถ้าเราสังเกตบ่อย ๆ ก็ทำดู แต่ว่าอย่าไปทุ่มเทกับมัน อย่างของอาตมาถ้าฝันว่าจับปลาได้เมื่อไหร่แปลว่าได้สตางค์ทุกที ไม่ว่าทางใดทางหนึ่งก็ต้องมา แล้วถ้าหากว่าฝันเล่นการพนัน ต้องจำไว้ว่าตอนที่เล่นได้เงินเสียเงินไปเท่าไหร่ แล้วเอาตัวเลขมาเล่นหวยทุกที
      ถาม :  แล้วถ้าฝันเห็นพระภิกษุบ่อย ๆ ละคะ ?
      ตอบ :  ไม่ทราบจ้ะ เพราะยังไม่เคย
      ถาม :  ฝันแบบนี้จะฝันช่วงวันโกนกับวันพระ วันอื่น ๆ จะไม่ฝัน จะฝันวันอย่างนี้ไม่ทราบเป็นเพราะอะไร แล้วจะเป็นนิมิตที่ดีด้วย ส่วนใหญ่จะเป็นพระมาให้พรพาจุดธูปขอพรกล่าวคำอุโบสถศีล อะไรอย่างนี้
      ตอบ :  ของอาตมาถ้าหากว่าฝันจะเอาไว้วัดกำลังใจของตัวเอง ที่วัดกำลังใจ ก็คือว่า ในฝันมันเป็นกำลังใจแท้ ๆ ของเรา มันปรุงแต่งไม่ได้ อย่างเช่น ว่าถ้าถามว่าอยากได้ไหม เราอาจจะอยากได้ แต่ปากบอกว่าไม่อยาก มันเป็นการปรุงแต่งได้ แต่ในฝันจะเป็นกำลังใจแท้จริงของเรา ในเมื่อเป็นกำลังใจแท้จริงของเรา ถ้าในฝันเราพบสิ่งที่เป็นมงคลอยู่ในศีลในธรรม ถือว่ากำลังใจของเราอยู่ในด้านดีแล้วเราไม่ละเมิดศีล แสดงว่ากำลังในศีลของเราทรงตัวมั่นคงจริง ๆ แล้วสิ่งเหล่านี้เอาไว้วัดการปฏิบัติของตัวเองได้
              ถ้าจะเอาเรื่องเกี่ยวกับความฝันอาตมาเอง อันดับแรกเอาไว้วัดผลการปฏิบัติของตัวเอง อันดับที่สองถ้าฝันเก็บไว้เป็นกำลังใจ ถ้าฝันไม่ดีลืมมันไปเลยขี้เกียจไปคิดมัน พาให้เราฟุ้งซ่านเปล่า ๆ ขี้โกงได้เราจะสบายใจ ฝันไม่ดีลืมมันไปเลย ถ้าฝันดีเก็บไว้เป็นกำลังใจ
      ถาม :  ตอนปฏิบัติใหม่ ๆ มาเป็นลักษณะเหมือนกับ ตาจะให้พร ๓ ข้อ ข้อแรกตอนนั้นประมาณตี ๔ ชี้มาที่หัวเข่าเหมือนกับมีแสงไฟพุ่งมาที่หัวเข่า แล้วประมาณตี ๔ ครึ่งนาฬิกาที่ตั้งปลุกไว้มันปลุกพอดี แต่ขาเราขยับไม่ได้ เหมือนถูกตรึงอยู่กับที่เลยได้พรข้อนั้นข้อเดียว เหลืออีก ๒ ข้อยังไม่ได้
      ตอบ :  เดี๋ยวพอเจอท่านครั้งใหม่แล้วไปทวง ลักษณะนี้เขาเรียก “เทพสังหรณ์” เทพสังหรณ์มักจะฝันตอนใกล้รุ่งหลังตี ๒ ไปแล้ว เพราะว่ากำลังใจของคนเราส่วนใหญ่มันจะฟุ้งซ่านมาทั้งวัน มันต้องการพักผ่อนช่วงระยะเวลายาวนาน ก็เหมือนกับน้ำเริ่มนิ่งแล้วตะกอนมันเริ่มหมด ความใสเริ่มเกิด ก็จะเริ่มรับโน่นรับนี่ได้
      ถาม :  เสียงออกเป็นกังวานนะคะ เป็นพระพุทธรูปบอกจะให้พรโยม ๓ ข้อ แต่เอาข้อแรกไปก่อนนะ น่าจะเป็นนิมิตที่ดีแล้ว
      ตอบ :  เดี๋ยวคืนนี้จุดธูปบอกข้อที่ ๒ ได้แล้วค่ะ
      ถาม :  ก็เลยคิดว่านี่เราฝันอะไรนะ แล้วจีวรท่านเป็นริ้ว ไม่ทราบว่าเป็นพระพุทธรูปอะไร ?
      ตอบ :  นึกเสียว่าเป็นพระพุทธเจ้าก็แล้วกัน ตอนนี้รับรองว่าจะไม่เป็นโรคปวดข้อปวดเข่าแน่เลยใช่ไหม ?
      ถาม :  ตอนนี้ก็ดีขึ้นนะคะ แต่ก็ยังไม่หายสนิทเพราะเรามีโรคประจำตัวอยู่ แต่ก็ไปไหนมาไหนได้ค่ะ
      ตอบ :  ต่อไปถ้าเกิดอะไรขึ้นให้นึกถึงภาพนี้นะ
      ถาม :  แล้ววันหนึ่งเป็นวันโกน พระภิกษุท่านก็พาไหว้รอบอุโบสถทั้งหมด ๔ ทิศ อ้าว! โยมช่วงเวลาเดียวกันนี้ถ้าโยมถูกรางวัลที่ ๑ ให้ดูที่ทางเข้าประตูอุโบสถมีตัวเลขเขียนให้เห็นชัด อย่างที่พระอาจารย์พูดเมื่อกี้นี้ค่ะ ยังหาซื้อไม่ได้เลย
      ตอบ :  พอจ้ะพอ อย่าไปเอานิยายกับมันมาก พาเจ๊งไปเยอะแล้ว
      ถาม :  เป็นคนที่ไม่ได้ฝันบ่อยด้วยนะคะ นาน ๆ จะฝันทีก็เลยมีความรู้สึกว่าฝันดี ๆ ทั้งนั้นนี่นา เชื่อถือได้หรือเปล่า ?
      ตอบ :  บอกแล้วว่าให้รับรู้ไว้ด้วยความเคารพ แต่อย่าเชื่อจนกว่าจะเกิดจริง ๆ
      ถาม :  ก็ไปหาซื้อที่ราชดำเนิน กองสลาก
      ตอบ :  ระวังจะเจออย่างอาตมาเกือบไม่มีสตางค์ให้เขา คือมีอยู่ตอนหนึ่งได้หวยมา ๒๐๒ ดวงมันจะได้ ต้องใช้คำว่าดวงมันจะได้ แสดงว่าบุญมันต้องทำไว้เยอะ ได้น้อย ๆ มันไม่สะใจ ดันนั่งรถไปลงหน้ากองสลากพอดี พอเดินเข้าไปแม่ค้าเขาก็ขายกันเป็นแถวเลย เขาถามว่าจะซื้อเลขอะไร มี ๒๐๒ ไหม ก็บอกว่ามีเท่าไหร่ก็เอา (มันดันหลุดปากไปได้) แต่ละคนได้ ๒ เล่ม ในเมื่อได้ ๒ เล่ม ก็จะมี ๒ ใบเท่านั้นเอง ปรากฏว่ามันสะกิดต่อไปเรื่อย ๆ มี ๒๐๒ ไหม ส่งมาเลยพี่ เขาเอาหมดเลย เขาว่าอย่างนั้น เลข ๒๐๒ มันเพิ่งออกไป อยู่ ๆ หมูมาวิ่งชนปังตอ เลขมันขายไม่ออกอยู่แล้ว มีคนมาขอซื้อ มันเลยขนมาให้เราหมด ปรากฏว่าออกซ้ำ คือดวงมันจะต้องได้ แต่งวดนั้นเกือบแย่เกือบไม่มีค่าหวยให้เขา เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็อย่าไปทุ่มเทกับเขาแล้วกัน ขาดสติเมื่อไหร่เดี๋ยวที่ได้มาจะไปคืนเขาหมด แล้วต้องแถมให้เขาอีกต่างหาก
      ถาม :  บางทีมันก็มีค่ะ บางทีมันก็ไม่มีกำลังใจ มันจะทำอย่างไรให้มีกำลังใจเสียที ถ้าอนาคตมีสตางค์ยังพอมีกำลังใจบ้าง ยังพอมีความหวัง
      ตอบ :  อนาคตแก่แล้วก็ตายจ้ะ
      ถาม :  ไม่ถึงขนาดนั้น อนาคตหมายถึงว่าเราได้พ้นทุกข์ มองเห็นแล้ว
      ตอบ :  ถ้าตั้งใจจริงพ้นแน่ อาตมากล้ายืนยัน เพียงแต่ว่าทำจริงแค่ไหนเท่านั้น
      ถาม :  อานิสงส์การสวดมนต์ได้เยอะไหมคะ ?
      ตอบถ้าทำเป็นยันพระนิพพานเลย สำคัญว่าทำเป็นไหม การสวดมนต์ อันดับแรกได้สมาธิ ถ้าหากว่าเราสมาธิไม่ดีจะสวดผิด อันดับสองได้ทิพจักขุญาณ ถ้าหากไปนึกถึงตัวหนังสือไปเห็นตัวหนังสือชัดเท่าไหร่ เราเห็นผีเห็นเทวดาได้ชัดเท่านั้น อันดับสามถ้าเราแปลในสิ่งที่สวดได้ ตั้งใจปฏิบัติธรรมปฏิบัติตามไป โอกาสเข้าถึงธรรมก็มีสูง อันดับสุดท้ายถ้ายกจิตขึ้นพระนิพพานได้ ให้ไปสวดถวายพระข้างบนตายตอนนั้นก็ไปนิพพานตอนนั้น เพราะฉะนั้นก็อยู่ที่เราว่าจะเอาระดับไหน


              เสโล ยถา เอกฆโน
              วาเตน น สมีรติ
              เอวํ นินฺทาปสํสาสุ
              น สมิญฺชนฺติ ปณฺฑิตา

              ขุนเขาไม่สะเทือนเพราะแรงลมฉันใด
              บัณฑิตก็ไม่หวั่นไหวเพราะนินทาหรือสรรเสริญฉันนั้น

              Even as a solid rock
              Is not shaken by the wind
              So do the wise remain unmoved
              By praise or blame.