ถาม: ........................... ?
ตอบ : เป็นกรรมทั้งหมด แต่อย่าลืมว่าพระโพธิสัตว์ คือสัตว์ที่กำลังสร้างบารมีเพื่อบรรลุโพธิญาณ ในระหว่างที่กำลังตระเวนทำความดีอยู่ ก็ต้องมีชั่วบ้างดีบ้างสลับกันไปเรื่อย ๆ เพียงแต่ว่ามาตรฐานความดีความชั่วนี่เป็นอย่างไร ? ในสายตาของเขา ๆ ทำอย่างนั้นดีแล้ว แต่ในสายตาคนอื่นว่าเขาทำชั่ว
เพราะฉะนั้น...ถ้าคุณถามว่าชั่วไหม ? ก็ต้องไปถามตัวเขาเอง มีใครบ้างถ้ารู้ว่าชั่วแล้วจะทำ ต้องเห็นว่าดีถึงทำ โจรไปปล้นเขากิน มันก็ว่าดีถึงปล้น สบายดีไม่ต้องทำงาน คว้ามีดคว้าปืนไปแป๊บเดียวก็ได้สตางค์แล้ว ดี...! เพียงแต่ว่าความดีความชั่วอยู่กับระดับจิตของเรา จิตของเราถ้าหยาบ สิ่งที่คนจิตละเอียดเห็นว่าเป็นความชั่ว เราก็จะเห็นว่าดี แต่ถ้าหากว่าจิตของเราละเอียด สิ่งที่คนอื่นเขาเห็นว่าดีแท้ ๆ เราก็ยังเห็นว่าชั่วอยู่
เคยอ่านพระธรรมบทไหม ? พระพุทธเจ้าชาติหนึ่งเป็นชายตัดฟืน เดินทางเข้าไปตัดฟืนในป่า ทุกวัน ๆ เอาไปขาย วันนั้นเดินทางลึกไปกว่าปกติ ไปเจอสระโบกขรณีอยู่กลางป่า เห็นดอกบัวเยอะแยะไปหมด ก็เออ...! ดีจังเลย เราจะได้เก็บไปไหว้พระ พอเอื้อมมือดึงดอกบัว ผีเสื้อน้ำโผล่ขึ้นมา ร้องว่า ขโมย พระพุทธเจ้าที่เป็นชายตัดฟืนในชาตินั้นก็ถามว่า นี่เป็นสระอยู่กลางป่า ไม่มีเจ้าของ บอกว่าขโมยได้อย่างไร ? ผีเสื้อน้ำบอกว่า เราดูแลอยู่ ถ้าคนอื่นเก็บล่ะ ? คนอื่นเก็บ ไม่เป็นไร ทำไมเราเก็บแล้วถึงเป็นขโมย ? ท่านบอกว่า ท่านปรารถนาโพธิญาณเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ จะเกิดเพื่อไปเป็นพระพุทธเจ้า เป็นครูสอนเขา ถ้าเรื่องเล็กน้อยแค่นี้ คุณยังมองข้ามไป แล้วคุณจะไปเป็นโพธิสัตว์ เป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นครูสอนเขาได้อย่างไร ? ฉะนั้น...ถ้าคนอื่นทำแล้วไม่ผิด แต่ว่าคุณทำแล้วผิด เพราะฉะนั้น...คนที่จิตละเอียด แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็มองข้ามไม่ได้ แต่ขณะเดียวกันคนที่จิตหยาบเห็นว่าไม่ผิด เพราะว่าทุกคนย่อมเห็นว่าสิ่งที่ตัวเองทำดีแล้ว ถูกแล้ว เขาถึงได้ทำ
เคยอ่านทศชาติไหม ? ชาติที่เป็น เตมีย์ พระเตมีย์ทำไมท่านถึงต้องแกล้งเป็นใบ้ ? เพราะท่านรู้ว่าถ้าหากว่าเป็นพระมหากษัตริย์ เป็นผู้นำประชาชน ต้องสั่งประหารชีวิตนักโทษอย่างนี้ แล้วท่านบังเอิญว่ายังรักษาทิพจักขุญาณได้อยู่ ท่านเห็นอยู่แล้วว่าชาติก่อน ๆ ท่านทำมา ท่านตกนรกเสียนับไม่ได้ ท่านก็เลยว่า เออ...! ถ้าเราขืนเป็นคนปกติดีต่อ ๆ ไป พ่อก็จะยกสมบัติให้ เราก็ต้องทำไปอย่างนี้อีก เดี๋ยวก็ลงนรกอีก ท่านเลยแกล้งทำเป็นใบ้เสีย เพราะฉะนั้น...เรื่องของความดี ความชั่ว ประณามกันไม่ได้ ของเขาเอง เขาอยู่ในสถานภาพแบบนั้น ถ้าหากคนสองคนพอพูดกันรู้เรื่อง แต่ว่าคนเป็นล้าน ๆ หลายสิบล้านอย่างนี้ ต้องอาศัยความเด็ดขาดเข้าว่า ฉะนั้น...การลงโทษสั่งประหารชีวิต ตัดมือตัดหัว ทางแขกเขาทำกันเป็นปกติ ถ้าหากว่าเราไปเป็นชู้กับเมียเขา มันจับเราเฆี่ยนจนลายไปทั้งตัว แล้วไปฝังดินเหลือแค่ครึ่งตัวให้คนอื่นเอาหินขว้างจนตาย แล้วคุณจะไปเอามาตรฐานอะไร ? อเมริกานั่งเก้าอี้ไฟฟ้า หรือฉีดยาพิษก็ตาย
ถาม : ระบบศาล (ไม่ชัด)
ตอบ : อย่าลืมนะ ถ้าคนไม่ผิดเขาจะทำทำไม ? ปัจจุบันศาลสถิตยุติธรรม คุณลองถามสิ เอาคนดีเข้าคุกไปกี่คน ? คุณเป็นคนดี แต่คุณไม่มีสตางค์ ในเมื่อคุณไม่มีสตางค์ คนมีสตางค์จ้างทนายเก่ง ๆ ก็ชนะ เพราะฉะนั้น...ถ้าจะเรียกร้องหาความยุติธรรม ผมจะรอตอนคุณตรัสรู้ จะยุติธรรมจริงไหม ?
ถาม : องค์ดาไลลามะ เก่งมากไหมครับ ?
ตอบ : เก่งมากไหม ? ก็คนนับถือเขาทั้งประเทศ...!
ถาม : เต็มหรือยังครับ ?
ตอบ : ถ้าเต็มไม่เกิดใหม่เรื่อย ๆ หรอก
ถาม : วนมาหลายรุ่น ยังไม่เต็มอีกหรือครับ ?
ตอบ : วนมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว ทางด้านโน้นเขามหายาน เขาปรารถนาความเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ จริง ๆ เขาพูดถึงนิพพานทุกคำพูด สวดมนต์คำหนึ่ง เขียนอักษรมนต์คำหนึ่ง หมุนกงล้อมนต์คำหนึ่ง นับลูกประคำรอบหนึ่ง เขาถือว่าเขาใกล้นิพพานไปก้าวหน้าหนึ่ง แต่เขาตั้งความปรารถนาว่า เขาจะเกิดใหม่เพื่อมาช่วยคน แถวนั้นเขาจะเป็นอย่างนั้นกันทั้งหมด ทั้งประเทศ
ถาม : ผมมองว่าเขาไม่เหมือนสายหลวงพ่อ เพราะว่าเขาเป็นพระเหมือนกินไม่ครบรส หลวงพ่อเป็นทุกอย่าง เขาวนอยู่ในลักษณะเดียวตลอด
ตอบ : ต้องค่อย ๆ ทำไป พอถึงเวลาก็จะแตกหน่องอกออกไปเอง อย่าลืมว่ากว่าที่จะผ่านไปได้ บารมีต้อง ๓๐ ทัศ หยาบ กลาง ละเอียดใช่ไหม ? สามัญบารมี อุปบารมี ปรมัตบารมี ของเขาเองป่านนี้อยู่ตรงจุดไหน ? ไปถามเขาดูสิ ถ้าเพิ่งจะได้แค่หนึ่ง ก็เหลืออีก ๒๙ ตาย ๆ เกิด ๆ ไม่ต้องนับ
งานสงกรานต์วัดท่าขนุนมี ๓ วัน ตอนช่วงเช้าจะเป็นเทศน์เจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญใส่บาตรตามปกติ ช่วงบ่ายวันที่ ๑๓ ตอนบ่ายโมง จะมีสะเดาะเคราะห์วันที่ ๑๔ ตั้งแต่ ๑๐.๐๐-๑๗.๐๐ น. จะเป็นการแข่งขันก่อพระทราย ปีนี้เขาแบ่ง ๒ ทีม คือทีมตลาด กับทีมฝั่งวัดเขาจะดวลกัน กติกาเขาว่า สวย ใหญ่ ทรายเยอะ ยังไม่รู้ว่าจะก่อได้ใหญ่แค่ไหน ? วันที่ ๑๕ ตั้งแต่ ๑๐.๐๐ น. เริ่มมีการละเล่นต่าง ๆ ไปเรื่อย แล้วไปสรงน้ำพระตอน ๑๕.๐๐ น. พอ ๑๖.๐๐ น. จะเริ่มสรงน้ำผู้สูงอายุ แต่ว่าการละเล่นต่าง ๆ จะระดมไปวันที่ ๑๕ ทั้งหมด มีการแข่งขันกันให้ยุ่งไปหมด
ถาม : พุทธทำนาย ต้องเกิดขึ้นจริงแน่นอนใช่ไหมครับ ?
ตอบ : ก็เกิดหรือยังล่ะ ? (หัวเราะ) ก็เกิดแล้วนี่
ถาม : พระพุทธเจ้าไม่เหมือนกับนอสตราดามุส นอสตราดามุสบอกละติจูด ลองติจูด ประมาณเวลาด้วย
ตอบ : นอสตราดามุส ไม่ใช่พระพุทธเจ้า
ถาม : ยึดเวลาได้ไหมครับ ของนอสตราดามุส ?
ตอบ : ทุกสิ่งทุกอย่างมีปัจจัยการเปลี่ยนแปลงเฉพาะหน้าอยู่ อย่าลืมนอสตราดามุสบอกทุกอย่าง แต่ไม่เคยบอกเวลา เพราะว่าสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ สามารถที่จะมีปัจจัยเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา สหรัฐกำลังแหย่รังต่อ รังแตน ไม่รู้ตัวหรอก อิสลามทั่วโลกมีมากที่สุด ผู้ที่นับถืออิสลาม ขนาดพุทธยังอยู่อันดับสาม แล้วพวกอิสลามนี่ แหม...เรื่องดื้อ เรื่องรั้นสุดยอดอยู่แล้ว โปรดระวังให้ดีก็แล้วกัน
ถาม : .......................
ตอบ : อย่าเพิ่งไปวิตกวิจารณ์ หนังเพิ่งจะเริ่ม ดูให้จบก่อน ดูหนังให้จบเรื่องก่อน
ถาม : จะกลายเป็นเหมือนพุทธทำนาย ที่มียักษ์ ๒ ตัว สู้กันนอกศาสนา
ตอบ : ก็นอกทั้งคู่ คริสต์กับอิสลาม เคยสู้กันมานานแล้ว สงครามครูเสดใช่ไหม ? ฟาดเสีย ๑๕๐ ปี นี่เพิ่งจะเริ่มอาทิตย์ที่สาม
ถาม : ใครจะชนะครับ คริสต์หรืออิสลาม ?
ตอบ : จะอิสลามชนะ หรือว่าคริสต์ชนะ ก็เละพอกันนั่นแหละ ชาวบ้านตาดำ ๆ เดือดร้อนที่สุด
ถาม : ................................
ตอบ : ร้ายกาจไหมล่ะ ? ถือไปเยอะเลยอิสลาม พวกของอ๊อคไคเตอร์ออกไปทางด้านกรีก ทางด้านมาซิโดเนีย ถือตามนั้นหมดเลย จะว่าไปแล้วจริง ๆ มองโกลก็สุดยอดเหมือนกันนะ
ถาม : เคยรุ่งเรืองแป๊บเดียว แล้วก็หมดเลย มีอยู่ไม่กี่ช่วง
ตอบ : นั่นแหละ ถึงได้เถียงพระพุทธเจ้าไม่ได้ใช่ไหม ? ของทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วก็เสื่อมไป
ถาม : น้องเขาอยากรู้ว่า ใช้ธรรมะข้อไหน คือการลดทิฐิมานะ ?
ตอบ : ลดทิฐิมานะ โอ้โฮ...สบายมาก ตายแน่ ๆ คำเดียวลูก คนเราถ้ารู้ตัวว่าจะตายแล้ว จะไปมานะถือตัวถือตนไปทำเกลืออะไร ? ตายด้วยกันทุกคน จะชั่วจะดีจะมีจะจนอย่างไร ? สุดท้ายก็ตายหมด
ถาม : พอดีเขามีเรื่องกับเพื่อน แล้วจะไปง้อเขา กลัวเสียหน้า
ตอบ : รีบ ๆ ไปง้อเลย จำไว้ว่า ยอมเสียหน้า แล้วทุกอย่างจะดี ไม่อย่างนั้นถึงเวลาเดินผ่านก็เสียวสันหลัง ง้อเขานี่เสียฟอร์มมากเลยหรือ ?
ถาม : เราไม่เคยทำอะไรให้เขา แล้วเขาทำกับเราตลอดเลย
ตอบ : ทำมา...! ถ้าอดีตเราไม่เคยทำ ปัจจุบันไม่มาทำเราหรอก แหม...ทำแล้วลืมนี่หว่า ? ลูกศิษย์วัดระฆังทะเลาะ คนหนึ่งตีหัวอีกคนด้วยตะพดหัวแตกเลย คนหัวแตกไปฟ้องหลวงพ่อโต บอกว่า ไอ้โน่นมันตีผม หลวงพ่อโตบอกว่า ไม่ใช่หรอก มึงตีมันก่อน นี่หัวผมแตกนะ เออ...ก็นั่นแหละ มึงตีมันก่อน ไอ้นั่นโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปเลย หลวงพ่อโตพูดในอดีต ไอ้เวรนี่ไปตีเขาก่อน มาชาตินี้มันตีคืน แหม...ท่านพูดยาวไปหน่อย ลูกศิษย์ตามไม่ทัน โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลย ทุกสิ่งทุกอย่างมันเกิดกับเราในปัจจุบัน เกิดจากอดีตที่เราทำไว้ ง้อ ๆ เขาหน่อย เพื่อความสุขของเราเองด้วย บางทีเขาอาจนึกอยากง้อเราใจจะขาด อ้าปากพูดไม่ได้ เราพูดก่อน ถือว่าเราชนะ เอาเสียหน่อยนะ ไม่ต้องกลัวหรอก สมัยนี้เขามีฟอร์มขายเป็นสวนเลย จตุจักรมี ไม่ต้องกลัวเสียฟอร์มหรอก ถ้าฟอร์มหมดไปซื้อใหม่ได้ (หัวเราะ)
ถาม : คือว่าผมไปรู้จักรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัย เขาบอกว่า เขามาจากวงศ์นักรบธรรมาภิเษก สวรรค์ชั้นดุสิต เขาจะมาช่วยขนสรรพสัตว์ทั้งหลายที่อยู่ในจักรวาลไปสู่นิพพาน แล้วเขาบอกว่า ตอนนี้กองทัพธรรมลงมาเยอะแล้ว เพื่อที่จะสร้างอาณาจักรศิวิไลซ์ อยากจะรู้ว่าวัดธรรมกายนี่จริงไหม ?
ตอบ : คุณไปถามพวกฝึกธรรมกายสิ ถามว่า ทำไมไม่อธิษฐานนิพพานชาตินี้ เขาถามว่า นิพพานไปชาตินี้ได้หรือ ? ตัวเองยังไม่แน่ใจว่านิพพานไปชาตินี้ได้ จะขนคนอื่นไปได้อย่างไรวะ...!?
ถาม : คือไม่ค่อยชอบ ฟังหลักของเขาดูแล้ว คือว่าเป็น ?
ตอบ : ไม่ต้องหรอก คุณไปเปิดประวัติแม่ชีจันทร์ หรือหนังสือที่แม่ชีจันทร์เทศน์ หน้าซ้ายบอกว่า เราไปนิพพานกันนะลูก หน้าขวาบอก เราเกิดกันอีกเถอะ จะได้สร้างบุญต่อ ไม่ได้อยู่กับร่องกับรอยเลย อาตมาพูดกันตามความเป็นจริง ยกเว้นว่าเขาได้ยินอาตมาพูดตรงนี้แล้ว ไปแก้ไขหนังสือเสียใหม่ คนจะไปนิพพาน แต่ชวนเกิดใหม่อีก แปลกดีว่ะ...! อาตมาก็เลยเห็นว่า ไม่ค่อยจะอยู่กับร่องกับรอย การปฏิบัติทุกระดับมารเขารู้ ในเมื่อเขารู้ เขาจะชักให้เราคิดผิด พูดผิดทำผิดอยู่ตลอด บางทีทำให้เราหลงไปเลยว่า เราเป็นอย่างนั้น เราเป็นอย่างนี้ เราคืออันนั้น เราคืออันนี้ แล้วเราก็จะไปยึดติดตรงนั้นว่า กูเป็น กูใช่ แทนที่จะหลุดพ้น ก็เลยติดแหง็กอยู่แค่นั้น ทั้งที่กำลังเราเพียงพอที่จะหลุดพ้นได้
ฉะนั้น...เรื่องของการหลงผิดเพราะว่าเข้าใจผิด ปัจจุบันมีเยอะแต่เยอะด้วยกัน สิ่งต่าง ๆ ทั้งเขาพูดเขาทำมา เราไม่จำเป็นจะต้องไปสงสัย ถ้าหากว่าอะไรที่เราเทียบเคียงกับพระไตรปิฎก กับคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้วจริง ใช่ตามนั้น ก็เออ ถ้าหากว่าไม่จริง ไม่ใช่ตามนั้น เราก็เออเหมือนกัน เพียงแต่ว่า เอออันหนึ่งขึ้น เอออันหนึ่งลง
ถาม : คือว่าหลักคำสอนปฏิบัติของเขา คือบิดเบือนจริง ๆ คือหลักของพุทธศาสนา ถือว่ามีคนมาบิดเบือนพุทธศาสนาอย่างนี้ กลัวว่าพุทธศาสนาจะเสื่อมเหมือนกัน ทั้ง ๆ นี้ครบกึ่งพุทธกาล ?
ตอบ : ศาสนาพุทธไม่มีวันเสื่อม เพชรอย่างไร ? ก็เป็นเพชรอยู่อย่างนั้น เมื่อไร ๆ ก็ยังคงส่องแสงเจิดจรัสแจ่มจ้าอยู่อย่างนั้น เพียงแต่ว่าคนจะเห็นคุณค่าของเพชรนั้นไหม ? ถ้าคนไม่เห็นคุณค่าของเพชร ไม่ให้ความใส่ใจกับเพชร เพชรก็ไม่ได้ลดค่าลง เพียงแต่ว่าคนนั้นไม่สามารถเข้าถึงคุณค่าของเพชรเท่านั้น
ฉะนั้น...ถ้าหากว่าเสื่อม คือคนเสื่อมไปจากความดี ไม่ใช่ศาสนาเสื่อมลง คำสอนทุกอย่างของพระพุทธเจ้าสามารถพิสูจน์ได้ ใครทำก็เห็นผล เพียงแต่ว่าทำจริงหรือเปล่า...! ทำดีทำถูกหรือเปล่าเท่านั้นเอง
อ้าว...! วันนี้ใส่เสื้อแพะกันเป็นแถวเลย แพะอ้วนใช่ไหม ? สมเด็จพระเทพฯ ท่านบอก ปีแพะอ้วนไม่ใช่หรือ? แป๊บ ๆ สมเด็จพระเทพฯ ท่านก็ ๔๘ แล้ว เพราะฉะนั้น...ทุก ๆ คนชราภาพไปทุกวัน ๆ ความตายจะเข้าถึงเมื่อไร ? ก็ไม่รู้ อย่าอยู่ด้วยความประมาท เร่งตั้งหน้าตั้งตาทำความดีไว้
ถาม : ผมไปอีสาน ถามชาวบ้านว่า ปลูกมันสำปะหลัง ทั้งปีได้เงินเท่าไหร่ ? เขาบอกว่า ทั้งปีได้เงิน ๓๐,๐๐๐ บาท
ตอบ : เออ...! ยังดีได้ ๓๐,๐๐๐ บาท
ถาม : ๓๐,๐๐๐ บาท อยู่ได้อย่างไรทั้งปี เขาพูดว่า ๓๐,๐๐๐ นี่เยอะนะ
ตอบ : เยอะมาก
ถาม : เยอะมากหรือครับ ?
ตอบ : ที่เมืองกาญจน์ สักประมาณ ๓ ปีที่ผ่านมา มันสำปะหลังได้กิโลละ ๖๐ สตางค์ ต้องขายมันเท่าไหร่ ? ถึงจะได้ ๓๐,๐๐๐ บาท
ถาม : ทำไมเจ้าของโรงงานน้ำตาลรวยเอา ๆ แต่คนทำมันจน ผมพูดจริง ๆ ว่า ชาวบ้านเขาความรู้น้อย เขาทำแบบซ้ำซาก ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย
ตอบ : ไม่ใช่...! มันอยากรวยเร็วเกินไป ตัวโลภบังหน้า จะยกตัวอย่างให้ฟัง มีอยู่ปีหนึ่งชาวบ้านเขาขั้นไปถางทำไร่ แถว ๆ โน่น บ้านภูเตย บ้านคลองงู บ้านเขาพระอินทร์โน่น เขาถางป่า ๒๐๐ ไร่ แล้วไปกู้เงินเถ้าแก่มาซื้อพันธุ์ข้าวโพด ซื้อยาฆ่าแมลง ซื้อปุ๋ย ลงข้าวโพด ๒๐๐ ไร่ ขึ้นงามสะพรั่งเลย ยาวประมาณคืบหนึ่ง หลังจากข้าวโพดออกก็พอ เอาสิปรากฏว่า...พอข้าวโพดขึ้นได้คืบกว่า ๆ ฝนแล้งไป ๒ เดือน เหี่ยวตายหมด อะไรเกิดขึ้น ? หนี้ปุ๋ย หนี้ยา ค่าเมล็ดพันธุ์ก็ยังค้างเถ้าแก่อยู่ แล้วแถมติดหนี้ปิกอัพอีกคันหนึ่ง คราวนี้ปีนั้นมันสำปะหลัง กิโลละ ๖๐ สตางค์ บ้านหนึ่งพอขายมันเสร็จ ไปซื้อตู้เย็นใบละ ๖,๐๐๐ พอดี แล้วคุณลองคิดดูสิ ขายมันสำปะหลังกี่กิโลถึงได้ ๖,๐๐๐ บาท เท่าไหร่ ? เป็นหมื่นกิโล...! ปลูกมันสำปะหลังเป็นหมื่นกิโล ใช้ที่กี่ไร่ ? พอมาถึงเสียบปลั๊กเข้าไป แล้วเป็นอย่างไร ? ไฟรับประทานไปแล้ว เปิดตู้มา ตู้เปล่านี่หว่า ต้องไปซื้อผัก ซื้อหมู ซื้อไก่ ซื้อขนม ซื้อน้ำใส่ตู้เข้าไป เงินทั้งนั้น
ในเมื่อมี เปิดมาอ้าวมีนี่หว่า อ้าวกูกิน กินหมดซื้อใหม่ สรุปแล้วตั้งแต่เอาตู้บรรลัยมา มีแต่จ่าย ๆ ๆ อย่างเดียว ถึงเวลาลูกจะไปโรงเรียน อ้าว...ค่าเทอมลูก กลายเป็นตู้สี่เหลี่ยม ๆ อยู่ ลูกก็จะร้องไห้ตายชัก ไม่มีค่าเทอม ครูก็ไม่ให้เรียนต่อ แล้วถามว่าทำไมไปซื้อมาทั้ง ๆ ที่รู้ว่า ซื้อมาแล้วจะบรรลัยอย่างนี้ มันบอกว่า ข้างบ้านเขามี ฟังดูสิ มันเอาหัวแม่ตีนคิดหรือเปล่า ?
คราวนี้มีอีกคนหนึ่ง เป็นนายตำรวจติดตามหลวงพ่อ ยศของแกตอนนั้นเป็นแค่จ่าสิบตำรวจ ชื่อตระกูล เปาริก ใคร ๆ เขาเรียก จ่าแดง มาตอนหลังแกเป็นนายดาบ จ่าแดงมาซื้อที่สร้างบ้านให้เมียอยู่ เพื่อน ๆ ก็ด่าเช็ดเลย ไอ้ห่า...บ้านหลวงมีฟรีก็ไม่อยู่ อวดร่ำอวดรวยไปซื้อที่ซื้อทางสร้างบ้านให้เมีย รักเมียมาก ถามว่า จ่าคิดอย่างไรถึงมาทำแบบนี้ ? เขาบอกว่า ถ้าหากว่าผมอยู่บ้านหลวงนะครับ ข้างบ้านมีโทรทัศน์ เมียผมจะเอาโทรทัศน์ ข้างบ้านมีตู้เย็น เมียผมจะเอาตู้เย็น ข้างบ้านมีสเตอริโอ เมียผมจะเอาสเตอริโอ ผมต้องจ่ายตลอด ถ้าเวลาผมไม่อยู่ ก็จับกลุ่มตีไพ่กัน ผมจับเมียผม ผมก็จับไม่ได้อยู่แล้ว แล้วเงินใครที่เอาไปเล่นก็เงินผม แต่ถ้าผมยอมเสียเงินครั้งเดียว ผมมาซื้อที่สร้างบ้านให้ มันออกมาอยู่ข้างนอก มันไม่ต้องไปยุ่งกับวงสังคมของเขา อย่างดีผมก็ผ่อนค่าที่เท่านั้น พอถึงเวลาผ่อนหมด ที่ก็เป็นของผม ทุกอย่างก็เป็นของผม ไม่ต้องไปเสียอะไรตามเขา เมียผมไม่ไปเห็นสิ่งที่ยั่วยุต่าง ๆ ก็ไม่ไปบ้าตามเขา นี่เขาใช้สมองคิด รายเมื่อกี้ ๒ รายนั้นใช้หัวแม่ตีนคิด...!
ถาม : แต่ว่าโดยส่วนรวมเยอะนะครับ ในต่างจังหวัดคนจนเยอะมาก ไม่ดีเลย ๑๐ ปีผ่านไป ก็ยังคิดเหมือนเดิม
ตอบ : เพราะอะไร ?
ถาม : เพราะการศึกษาไม่พอ ?
ตอบ : ไม่ใช่หรอก ต้องโทษไปถึงอดีต ทำมาไม่พอ ถ้ายังทำปัจจุบันไม่พอ อนาคตก็จะเป็นอย่างนี้อีก เพราะฉะนั้น...คุณรีบไปแก้ไขกฏของกรรมซะ เขายังมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญนี่หว่า (หัวเราะ)
ถาม : ผมไม่ชอบเลยครับ ระบบลองผิดลองถูก มั่วไปหมดเลยครับ
ตอบ : คราวนี้พระพุทธเจ้าท่านทำระบบที่ดีไว้ให้แล้ว คุณไม่ใช้เองนี่หว่า ก็ต้องลองผิดลองถูกไปเรื่อย สมเด็จองค์ปฐมท่านลองผิดลองถูกเป็นองค์แรกเลย กว่าจะบรรลุล่อเกือบ ๔๐ อสงไขย คราวนี้องค์ถัด ๆ มาท่านมีแบบแล้ว ท่านสบายขึ้นหน่อย อย่างเก่งก็ ๑๖ ใช่ไหม ? คราวนี้ของเราเองแทนที่จะก้าวตามรอยพ่อใหญ่ ท่านเดินไว้จนราบเป็นทางแล้ว เปล่าหรอก กูทำเอง คาวนี้กูทำเองก็อดไม่ได้ที่จะลองผิดลองถูก
ถาม : มีเร็วกว่านี้หรือครับ ?
ตอบ : มี ๆ ๆ ลุกขึ้นแล้วไปทำ ถ้ายังนั่งอยู่ตรงนี้ไม่เร็วหรอก อยากทำอะไรก็ทำไปสิ ? วิธีที่เร็วที่สุดก็คือ ลงมือทำ แล้วก็ทำไปเรื่อย ๆ ถ้าหยุดเมื่อไหร่ ? ก็แปลว่า ช้า
ถาม : ที่ทำมาน้อยไปหรือครับ ?
ตอบ : น้อย...! ถ้ามากเอ็งไม่มานั่งอย่างนี้หรอก ป่านนี้ไปนั่งให้เขากราบเขาไหว้แล้ว หรือไม่ก็ไปนั่งตีกับอเมริกาอย่างซัดดัม ยังทำมาไม่พอหรอก
ถาม : ผมฟัง ผมงงมาก หลวงพี่บอกผมไม่ทำ ผมงงมาก หลวงพี่ก็เปิดทางหน่อย ทางไม่มีเลยมุกวันนี้ แค่คุยก็โดนด่าแล้ว แค่นี้ก็โดนเขาด่าทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว
ตอบ : แล้วกลัวทำไม ? อยากจะทำ พระพุทธเจ้าชาติหนึ่ง ท่านเป็นฤๅษีเงินก็ไม่มีสักบาทเหมือนกัน เห็นเสือจะไปกินลูกกวางที่อยู่ในถ้ำ ใต้ที่ท่านนั่งกรรมฐานอยู่ ท่านก็ไม่มีสตางค์ไปซื้อเนื้อให้เสือกิน ท่านก็เลยโดดไปให้เสือกินแทน แหม...ถ้าจะทำจริง ๆ แค่นั้นทำไมจะทำไม่ได้มาบ่นวาไม่มีสตางค์ น่าเตะ
เคยอยู่ต่างจังหวัดไหม? คนเขาทำเป็นเสาขึ้นไปหน่อย แล้วก็มีไม้ไผ่ยาว ๆ ลำหนึ่ง แล้วก็ผูกวัวไว้ปลายไม้ เวลาวัวจะกิน ก็เดินวนไปเรื่อย ๆ นั่นแหละ ทำอะไรก็ทำอย่างนั้นแหละ ทางทหารเขาเรียกว่า กลยุทธม้ากินสวน ค่อย ๆ กินไปทีละน้อย ไม่ใช่ให้เอ็งไปถล่มทีทั้งสวนปัจจุบันอาตมาทำลักษณะอย่างนี้ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ประเภทตักน้ำรดหัวตอ ถึงมันไม่ได้งอก ให้มันเปียก ๆ ก็ยังดี งานของพระศาสนาเป็นงานใหญ่มโหฬารเลย เพราะฉะนั้น...เราจะใจร้อนไม่ได้ ค่อยเป็นค่อยไปถ้าหากว่าคุณทำชาตินี้ไม่สำเร็จ คุณมาทำชาติหน้าเดี๋ยวก็สำเร็จเอง แหม...เขาให้เวลาอย่างน้อยตั้ง ๔ อสงไขย กับแสนมหากัป จะรีบไปไหนวะ ? อาตมาขนาดตั้งใจว่า ไม่มีชาติหน้า ก็ยังค่อย ๆ ทำเลย
โลกยุคข้างหน้านี้ เป็นเรื่องของคอมพิวเตอร์โปรแกรมเมอร์เป็นเรื่องของไอทีเทคโนโลยี เป็นเรี่องของจิตแพทย์ เรียน ๓ อย่างนี้แล้วจะรุ่ง จิตแพทย์จำเป็นมาก เพราะว่าชีวิตเร่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ความเครียดจะสูง จิตแพทย์ไม่ได้รักษาคนบ้า แต่ทำให้คนรู้จักตัวเอง ในเมื่อเขารู้จักตัวเอง เขาก็จะทำอะไร ๆ ให้ถูกต้อง ที่สติแตก เพราะไม่รู้จักตัวเอง
เณรเข้าสมาบัติแล้วฟ้าผ่า ใช่ไหม? ของอาตมาไม่ได้เข้าอะไรเลย โดนฟ้าผ่า ไปที่วัดหนองบัว ไปฉลองวัด คราวนี้เขานิมนต์พระตั้ง ๘๒ วัด แล้วญาติโยมก็ไปกันแน่นขนัดไปหมด ของเราอาจารย์ใหญ่ ไปสร้างวัดให้เขา ก็เลยมีคนลองของ กำลังจะเริ่มพิธี ก็นั่งอยู่คนเดียว คนอื่นเขานั่งอยู่กับพื้น ของเราเจ้าภาพจะถวายของ ต้องนั่งเก้าอี้ รู้สึกเหมือนกับฟ้าผ่าลงกลางหัว ตรึมสนั่นเลย ขาดสติไปสักครี่งวินาทีแล้วก็ตั้งหลักได้ ก็คงจะมีเขาหมั่นไส้เลยลองดู ว่าแน่จริงหรือเปล่า...! แหม...แต่ฟ้าผ่าไม่มีฝนนี่น่ากลัว ถ้าเป็นสมัยก่อนเป็นตายก็ต้องเอาคืนให้ได้ สมัยนี้ประเภทเซ็งซะแล้ว เบื่อมัน เพราะว่าพวกนี้ถ้าหากว่า เขาสู้เราไม่ได้ เขาจะไปหาคนที่เก่งกว่าไปเรื่อย แล้วเราเองจะโดนตอแยไม่รู้จบ ในเมื่อโดนไม่รู้จักจบ ก็เลยใช้วิธีโดนก็โดนช่างหัวมัน ทำไม่รู้ไม่ชี้ไป เขาเองอาจจะคิดว่าวิชาเสื่อมหรือบังเอิญครั้งนี้ไม่ขลัง แต่มันหนักจริง ๆ อย่างกับฟ้าผ่าลงกลางหัวเลย กำลังตั้งใจจะถวายสังฆทานอยู่ ช่วงนั้นพอดีจิตเปิดพอดี ตรึมสนั่นเลย เล่นกันซะได้
รุ่งขึ้นมีพระอยู่องค์หนึ่ง กระดูกสันหลังทรุด คือเรื่องของลูกศิษย์หลวงพ่อ มีได้เปรียบเขาอยู่อย่างหนึ่ง คือถ้ารักษายันต์เกราะเพชรไว้ได้นะ พวกที่ทำเกี่ยวกับไสยศาสตร์มา ถ้ามุ่งร้ายต่อเรานี่ มันจะย้อนคืนหมด เขาจะทำเราหนักแค่ไหน ? ก็โดนขนาดนั้น ก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า ที่กระดูกสันหลุงทรุดน่ะ เป็นเพราะว่าของเขาเอง เป็นหมอนรองกระดูกเสื่อม หรือว่าเกิดจากทำอะไร ? แต่บังเอิญมาทรุดจังหวะนั้นพอดี ป่านนี้ยังนอนยาวกระดิกไม่ได้ แล้วพอกลับมาถึงวัดท่าขนุน ฝนตกเป็นอาทิตย์เลย ต้องขอบคุณอเมริกา อเมริกาบอมบ์อิรัก ก็เลยดันพวกเมฆมาทางเราหมด เพราะฉะนั้น...รัศมีรอบ ๆ จากอิรักมาในรัศมีใกล้เคียงประเทศไทย โดยรอบเลยน่าจะมีฝนทั้งหมด
|