ถาม:  หลวงพี่คะ ไปดูหนังเรื่ององค์บากมา ๒ รอบแล้ว
      ตอบ :  เป็นอย่างไร ตกลงเป็นหนังไทยหรือหนังเขมรกันแน่
      ถาม :  พระเอกหน้าเหมือนเขมรหรือคะ ?
      ตอบ :  ไม่ใช่หรอก ชื่อออกไปทางนั้น สุรินทร์นี่ไม่กุยก็เขมร กุยคนไทย เรียกส่วย เขาจะมีภาษาพูดต่างหากของเขา อีกพวกหนึ่งก็เขมร แต่ฟังชื่อพระเอกแล้วเขมรชัวร์
      ถาม :  นักมวยไม่ใช่หรือครับ ใช่มวยโบราณหรือเปล่า ?
      ตอบ :  การต่อสู้ของโบราณเขาเรียก พหุยุทธ พหุ แปลว่า มาก จะใช้หมัด เท้า เข่า ศอก ศีรษะ ส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเป็นอาวุธได้ทั้งหมด หลักการต่อสู้ขั้นต้นมันต่างกัน แต่ถ้าทำถึงตอนสุดท้ายมันเหมือนกัน จะเหมือนกันตรงที่ว่าหากก้าวขึ้นระดับสูงต้องใช้กำลังใจมากกว่ากำลังกาย จะใช้สติสัมปชัญญะควบกับสมาธิ
      ถาม :  อีกหน่อยมวยไทยจะขึ้นมาเป็นอาวุธประจำชาติ คนรุ่นใหม่จะใช้เยอะ
      ตอบ :  ตอนนี้ฝรั่งเขาจะเห่อมวยไทยกันมาก ต่างประเทศเขาจะมีค่ายมวยไทยเป็นปกติ หลายประเทศอย่างเนเธอร์แลนด์ ถ้าใครฝึกมวยไทยเขาต้องไปขึ้นทะเบียนมือไว้ เขาถือว่ามือเป็นอาวุธถ้าใช้ไปทำอันตรายคนอื่นผิดกฎหมายเท่ากับใช้อาวุธ
      ถาม :  มือเป็นอาวุธหรือครับ ถ้าเราใช้ศอกแทนได้ไหม ?
      ตอบ :  เหมือนกัน อวัยวะในร่างกายของคุณ ถ้าหากส่วนไหนที่คุณใช้เป็นอาวุธก็เสร็จเลย เขาป้องกันคนของเขาขนาดนั้น เพราะเขารู้ฤทธิ์มวยไทยดี
      ถาม :  นี่ขนาดเป็นมวยเวทีนะครับ ถ้าเป็นมวยโบราณจะอย่างไรครับ ?
      ตอบ :  มวยโบราณนี่ทีเดียวอยู่ ตั้งแต่อาตมาลงมือมายังไม่เคยซ้ำใครเลย เพราะฝึกแบบโบราณ มวยโบราณเขาจะมีแม่ไม้ลูกไม้และจะมีท่าลับไม้ตาย รับรองว่าทีเดียวอยู่ไม่ต้องซ้ำ
      ถาม :  ถ้าหลวงพี่เป็นคนสอนมวยท่าจะดีค่ะ
      ตอบ :  เคยสอนแล้วที่วัดท่าซุง สอนเด็กวัด วันแรกมีมา ๕-๖ คน วันที่สองมา ๒๐ กว่าคน วันที่สามเหลืออยู่ ๒ คน เด็กสมัยนี้ความอดทนไม่พอ เริ่มดันขึ้นมาก็จะเข้าท่าเลยไม่ได้ ต้องเริ่มจากพื้นฐานถ้าพื้นฐานไม่ดี โอกาสบาดเจ็บมีสูง สมัยที่หัดอยู่เฉพาะท่าก้าวเดินอย่างเดียวครูเขาให้หัดอยู่ครึ่งปีเต็ม ๆ ถ้าไม่ได้อย่างใจเขาไม่เปลี่ยนให้
      ถาม :  ผมเองรู้จักคนเป็นมวยจีน มีตบมีเตะ ที่ลอยมาก มันต่างกันไหมครับมวยไทยกับมวยจีน ?
      ตอบ :  ก็บอกแล้วว่า พอถึงจุดสุดท้ายแล้วมันเหมือนกัน
      ถาม :  ผมเห็นมวยไทยที่ตี ๆ กันทุกวันนี้ไม่ค่อยท่าไหร่
      ตอบ :  ไอ้นั่นเขาใช้กำลังกาย แต่ถ้าหากว่าคุณไปเจอของแท้แล้วคุณจะรู้ว่าเป็นอย่างไร ลักษณะเหมือน ๆ กับกำลังภายในเลยล่ะ อย่างพวกเหินเตะ ท่าหนุมานเหินหาว ของเราไม่มีใครเขาทำให้เห็น ปัจจุบันที่แสดงอยู่ก็มีอาจารย์สเกณฑ์ แก้วผดุง คนเดียว เขาเป็นอาจารย์เปิดค่ายมวยไทยอยู่อังกฤษ อันนั้นทำได้คือเขาให้ฝรั่งยืนขึ้นแล้วอีกคนหนึ่งขี่คอ เอาดาบเสียบลูกแอปเปิ้ลแล้วชูสุดแขน เขาเตะถึง
      ถาม :  แล้วหลวงพี่เตะถึงไหมคะ ?
      ตอบ :  สมัยนี้ไม่รู้ว่าจะไหวไหม
      ถาม :  สมัยโน้นก็ได้
      ตอบ :  สมัยโน้นให้คนล็อคคออยู่ เตะกบาลมันได้
      ถาม :  หลวงพี่เปิดสอนดีกว่าค่ะ
      ตอบ :  ก็บอกแล้วว่ามันอดทนไม่พอ ในเมื่ออดทนไม่พอไม่รู้จะว่าอย่างไร ช่วงที่ว่านั้นแหละ วันแรก ๕-๖ คน วันที่สอง ๒๐ กว่าเกือบ ๓๐ คน วันที่สามเหลือ ๒ คน แล้ว ๒ คนก็อยู่ได้ไม่ถึง ๗ วันก็ไปอีกแล้ว เขาอ้างว่าเขาจำเป็นต้องขึ้นเวทีเลย
              เขาก็ถามว่าคู่ต่อสู้ของเขามันรัดเอวตีเข่าเก่งมากจะทำอย่างไร ก็เลยบอกว่าถ้าเป็นผมก็สบายมาก คนเอามือมารัดเอวเราอาวุธมันหมดไป ๒ อย่างแล้ว หมัด ๒ ข้างมันไม่ได้ใช้แล้ว เขาบอกว่าถ้าปรานีเขาก็ให้เบา ๆ หน่อย แต่ถ้าไม่ปรานีไม่เห็นแก่อนาคตก็หักแขนมันทิ้งไปเลย เราดูตรง ๒ แขน ดูตรงจุดนี้จุดอื่นไม่ได้ งอศอกแนบตัวแล้วกระชากลงไป ถึงได้บอกว่ามวยไทยโบราณไม่ต้องซ้ำโดนตรงไหนก็อยู่ตรงนั้น ไอ้คนแขนหักมันจะเหลือหรือ คุณลองจิ้มลงไปมันจะเป็นจุดอ่อนระหว่างแขนพอดี
              ลองดูว่าตั้งใจกระชากศอกลงไปเต็ม ๆ มันจะเป็นอย่างไร นั่น ๑ ใน ๓๖ จุดของร่างกาย มวยไทยเขาสอน มวยจีนเขาก็อาศัยเรื่องจุดเรื่องเส้นเหมือนกัน มันจะเป็นจุดอ่อนของร่างกายที่ป้องกันไม่ได้ เพราะว่าเราดันเอาแขนไปรัดเขา แล้วมวยไทยโบราณเขาอนุญาตให้เตะผ่าหมากได้ ตอนสมัยที่เรียนอยู่บอกว่า ครูครับทำไมถึงให้เตะผ่าหมากได้ ครูบอกว่าร่างกายคนมี ๒,๕๐๐ ตารางนิ้ว แค่ ๑๐ ตารางนิ้ว ป้องกันไม่ได้สมควรโดนจริงไหม
      ถาม :  ที่เขาฟาดลงไปบนหัว ไม่ตายหรือคะ ?
      ตอบ :  บนหัวไม่เหลือหรอกจ้ะ
      ถาม :  เอาศอกลงไป หัวเป็นที่ ๆ แข็งที่สุดและก็เป็นจุดอ่อนที่สุดด้วยหรือคะ ?
      ตอบ :  จุดอ่อนก็คือ อยู่ที่กลางหัวและขมับสองข้าง
      ถาม :  แต่ว่าท่าที่เอาหัวชน อันนั้นเป็นอย่างไรคะ ?
      ตอบ :  อันนั้นเขาใช้หน้าผาก กระดูกส่วนหน้าผากจะแข็งกว่า ท่านั้นเขาเรียกว่า ฤๅษีมุดสระ จะพุ่งใช้หัวชน โบราณคำว่าพยุหยุทธ เขาใช้อาวุธครบทุกส่วนกระทั่งหัวด้วย สมัยนี้หัวเขาไม่ให้แล้ว มีขบวนทุ่ม ทับ จับ หัก สมัยนี้ดันไปเรียกว่ายูโด ที่แท้เป็นมวยไทย บอกแล้วว่าแรก ๆ ต่างกัน แต่พอถึงท้าย ๆ จะเหมือนกันเพราะต้องใช้กำลังสมาธิควบกัน กำลังกายใช้ได้แค่กำลังอย่างเดียว แล้วยังมีประเภทเลี่ยงที่แข็งตีที่อ่อน ผ่อนหนักให้เป็นเบา อะไรพวกนี้
      ถาม :  แต่ท่าที่ จา พนม เขาทำ หนูว่ามันเปิด ๆ คือเวลาตั้งการ์ดยังไงก็เปิด ๆ ค่ะ
      ตอบ :  มันอยู่ที่ความคล่องตัว ของเขาบางอย่างเป็นการล่อให้คู่ต่อสู้เข้ามาทำ ก็อยู่ในลักษณะเปิดจุดอ่อน มวยไทยของเราถ้าหากว่าพลาดก็เสร็จเขาเลย เพราะมีหลายท่าที่ต้องล่อให้เขานำก่อน แต่ถ้าหากว่าเรากันได้แล้ว ใช้ท่าของเราออก เขาก็เสร็จเลยเหมือนกัน
      ถาม :  ต้องหุ่นคนตัวใหญ่ ๆ แบบฝรั่งหรือเปล่าคะ ?
      ตอบ :  ไม่จำเป็น ครูแนบ ชมศรีเมฆ เขาเป็นโปลิโอด้วย ต่อให้ลูกศิษย์ด้วยการนั่งอยู่บนครกตำข้าว ลูกศิษย์ ๔ คน รุมอยู่รอบตัวทำอะไรไม่ได้ ขนาดต่อให้ ๒ ขา เหลือแต่แขนแล้วนะ เป็นโปลิโอแต่เตะหนักมากเลย
      ถาม :  อ้าว แล้วแกบังคับขาของแกได้อย่างไรคะ ?
      ตอบ :  เขาไม่ได้เป็นจนกระทั่งบังคับขาไม่ได้ เป็นลักษณะสั้นข้างยาวข้าง อย่าเข้าไปในจังหวะที่เขาเตะถึงก็แล้วกัน
      ถาม :  แล้วตำราที่ว่าด้วยเรื่องมวยไทยทุกจุดของร่างกาย
      ตอบ :  ส่วนใหญ่สืบต่อกันมา ไม่ได้ไปผลิตขายเป็นตำรา แต่ว่าลูกศิษย์อาจารย์เดียวกัน คนหนึ่งคือ ปัญญา ไกรทัศน์ ซึ่งเห็นแก่เงินมากไป เอาไปทำเป็นตำราขายฝรั่งไปเรียบร้อยแล้ว สมัยก่อนถ้าอายุไม่ถึง ๒๕ ปี ครูเขาจะไม่ปล่อยให้ขึ้นไปต่อสู้กับใคร เขาถือว่ากระดูกยังไม่แข็งพอ แต่สมัยนี้เอาเด็กเพิ่ง ๑๐ ขวบขึ้นไปตีกันให้มั่ว
      ถาม :  คำว่ากระดูกยังไม่แข็งพอ นี่หมายถึงว่าอาจจะหักง่าย ๆ หรือคะ ?
      ตอบ :  พูดง่าย ๆ ก็คือว่า ถ้าหากคู่ต่อสู้อายุมากกว่าเขาก็จะไม่ให้สู้ด้วย เพราะว่าถือว่าเขากระดูกแข็งกว่า ผ่านประสบการณ์มามากกว่า เขาไม่เกี่ยงน้ำหนัก เขาเกี่ยงแค่อายุ น้ำหนักไม่เกี่ยง ตัวใหญ่ตัวเล็กแค่ไหนได้ทั้งนั้น แล้วอีกอย่างก็คือถ้าไหว้ครูท่าเดียวกัน ถือว่าเป็นศิษย์สายเดียวกัน เขาไม่ชกกันหรอก สมัยนี้เห็นกี่คน ๆ ขึ้นไปก็เทพพนม พรหมสี่หน้าเหมือนกันหมด
      ถาม :  จะโดนฝรั่งซึ่งเขามีมาก ต่างชาติจะเอาวิชาไป
      ตอบ :  ถ้าเรามีวินัย ฝรั่งทำอะไรไม่ได้หรอก เพราะว่าธรรมชาติเขาใช้คืนไม่เป็นดูอย่าง รามอน เดร็กเกอร์ ที่ชนะไทยได้ ก่อนชกแต่ละทีเขาซ้อม ๓ เดือน แล้วพี่มาดของเราซ้อมถึง ๓ วันไหม ถ้าเรามีวินัยแบบเขาก็สบาย มวยฝรั่งที่อายุการชกของเขามาก อย่างเช่นว่า ๓๐ กว่า ๔๐ หรืออายุ ๕๐ กว่ายังชกได้ เพราะว่าเขามีวินัยในการซ้อม เขาซ้อมจนกว่าเขาจะมั่นใจเขาถึงขึ้นชก ของเรามันมั่วไปรับสตางค์อย่างเดียว
      ถาม :  กลัวอย่างเดียว เอาวิชาไปเบ่งพาวเวอร์กับคนไทยอย่างนี้ครับ
      ตอบ :  จะไปยากอะไรล่ะ ยูโดใคร ๆ ก็รู้ว่าเริ่มที่ญี่ปุ่น แต่แชมป์โลกยูโดไม่เคยมีญี่ปุ่นสักที
      ถาม :  แชมป์ซูโม่ ยังเป็นคนฮาวายเลย
      ตอบ :  อเมริกัน ฮาวาย เป็นแชมป์มาตั้ง ๗ ปีซ้อนแล้ว บอกแล้วว่าวินัยต่างกัน ของเราพอไปถึงจุดหนึ่งสบายแล้ว จะขี้เกียจเหมือนลักษณะของเรา ฝึกสมาธิจะต้องขยันอดทน แล้วก็ทำสม่ำเสมอ
      ถาม :  จะทำอย่างไรเกี่ยวกับการชดใช้กรรมที่ส่งผลมาชาตินี้คะ ?
      ตอบ :  ไม่มีใครใช้หมดจ้ะ ควรทำความดีหนีกรรม การทำความดีที่มีกุศลมาก ๓ อย่างคือ
              ทาน คือ การให้ อันนี้เสียของเสียเงิน
              ศีล คือ การรักษาศีล มีอานิสงส์มากกว่าให้ทาน เป็น ๑๐๐ เท่า
              ภาวนา คือ การหัดทำสมาธิ มีอานิสงส์มากกว่าการรักษาศีล เป็น ๑๐๐ เท่า
              เพราะฉะนั้นถ้าหากจะชดใช้กรรมมันเป็นความคิดที่ดีคือ ให้มันหมดหนี้หมดสินไปเลย มันเป็นไปไม่ได้เพราะทำไว้เยอะเหลือเกิน
      ถาม :  ถ้าเป็นพ่อถ้าเป็นลูก ช่วยได้ไหมคะ ?
      ตอบ :  ก็ช่วยตรงที่ต้องแนะนำให้ท่านทำจ้ะ เรื่องของกรรมที่ว่าดีหรือชั่วก็ตามใครทำใครได้ ไม่ใช่ว่าพ่อทำแล้วถึงลูก หรือลูกทำแล้วจะไปถึงพ่อ แต่ว่ามีอยู่อย่างหนึ่งคือถ้าทำแล้วบอกท่าน ๆ พลอยยินดีด้วยท่านจะมีส่วนในผลบุญอันนั้น
      ถาม :  แล้วถ้าหากผลบุญมากว่า จะพอช่วยได้ไหมคะ ?
      ตอบ :  ถ้าหากผลบุญมากกว่ามันจะหนีห่างไปได้ชั่วคราว เหมือนกับหมาไล่กัดแล้วเราวิ่งหนี แต่ถ้าหากว่าเราประมาทชะลอฝีเท้าลงมันอาจจะไล่ทันอีก เพราะฉะนั้นเราทำความดีเราต้องเสริมมันให้ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ หยุดไม่ได้ ต้องเป็นคนบ้าในสายตาขของเพื่อน สมัยนี้ถ้าหากเข้าวัดเข้าวาทำบุญใส่บาตรส่วนใหญ่เขาว่าบ้า ไปห้างเดินแฟชั่นดีกว่า
      ถาม :  อาจหนักเป็นเบาใช่ไหมคะ ?
      ตอบ :  จากหนักจะเป็นเบา จากเบาจะเป็นหาย แต่ว่าไม่สามารถจะชดเชยแก้กันได้ เพียงแต่ว่ามันหนีห่างออกไปได้ พระอรหันต์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าที่เข้านิพพานไปแล้วจนนับไม่ได้ ไม่มีใครใช้หนี้กรรมเก่าหมด มีแต่ทำดีจนถึงที่สุดแล้วหลุดพ้นไป ในเมื่อหลุดพ้นไปเจ้าหนี้เขาอยู่ที่นี่ ท่านอยู่ที่โน่น ตามทวงท่านไม่ได้ ก็จบแค่นั้น
      ถาม :  เคยสวดมนต์ แล้วรู้สึกไม่ค่อยดีกำลังจะใช้กรรม แล้วสักพักหนึ่งก็รู้สึกเกิดเหตุร้าย ๆ ค่ะ
      ตอบ :  ไม่ใช่จ้ะ นั่นคือโชคดีที่เราสวดมนต์ไหว้พระ ถ้าหากว่าส่วนของความดีเราไม่ได้ทำอยู่ มันจะร้ายกว่านั้นอีก เมื่อกี้บอกแล้วมันผ่อนหนักเป็นเบานะจ้ะ ถ้าเราไม่ได้ทำมันจะหนักกว่านั้นอีก
      ถาม :  พอสักระยะหนึ่งมันก็จะดีขึ้นค่ะ
      ตอบ :  เพียงแต่ว่าของเราไม่ค่อยทำต่อเนื่อง พอรู้สึกตัวก้าวไปถึงไม่ดีก็เลิกดีก็เลิกเหมือนกัน ตกลงจะดีหรือไม่ดีตูก็ไม่ทำต่อทั้งนั้น แย่ล่ะสิ เหมือนกับเราหิวข้าววันละ ๓ มื้อ แต่เราไปกินทีแล้วเราก็พอแล้ว ไหวไหมล่ะ อีก ๓ วันก็ไส้แขวนขึ้นมาบนคอหอย
              การสวดมนต์ถ้าทำเป็นอานิสงส์มหาศาล เพราะว่าเป็นทานได้ เช่น เราตั้งใจจะไม่โกรธไม่เคืองใคร ไม่ฆ่าใคร ไม่ลักขโมยใคร ไม่ผิดลูกผิดเมียใคร เราเป็นผู้หญิงก็ไม่ผิดลูกผิดผัวใคร ไม่โกหกใคร ไม่กินเหล้า อันนี้เขาเรียกว่า อภัยทาน เราตั้งใจทำทานตรงจุดนี้ด้วยการนั่งสวดมนต์ คุณนั่งสวดมนต์อยู่ก็ได้แค่คิดเท่านั้น ไปทำไม่ได้ เป็นอันว่าส่วนนี้ได้
              คราวนี้พอเราอยู่ตรงนั้นให้เราตั้งใจว่า ส่วนของอภัยทานทุกข้อที่เราว่ามาก็คือ ศีล เราตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์ ส่วนของศีลเราก็ได้ ขณะเดียวกันถ้าเราสวดด้วยความตั้งอกตั้งใจจริง ๆ ใจจะตั้งมั่นเป็นสมาธิ ส่วนของสมาธิเราก็ได้ ตกลงบุญใหญ่ ๓ ตัวเราได้ครบเลย
              ดังนั้นว่าเราทำเป็นไหม ? ถ้าเราทำเป็นไม่ใช่แค่สวดมนต์ไหว้พระ แต่เป็นเรื่องทาน ศีล ภาวนา ไปในตัว พอเราทำแล้วหาจังหวะดี ๆ บอกคุณพ่อคุณแม่ บอกอย่างไรอย่าให้ท่านคิดว่าเราเพี้ยนไปแล้ว บอกท่านว่าเราได้ทำความดีตรงนี้ ขอให้ท่านโมทนาด้วย โมทนาคือพลอยยินดี ถ้าท่านไม่ด่าคืนมาก็เป็นอันว่าโอเคล่ะ ท่านจะได้มีส่วนในผลบุญนั้นด้วย
              แต่คนที่คอยโมทนาผลบุญของคนอื่นถึงเวลาเขาทำเราก็สาธุ มันมีจุดอ่อนอยู่นิดหนึ่งที่ว่าตัวคนทำต้องได้ผลก่อน คน ๆ นั้นถึงจะได้รับเพราะว่าไปอาศัยเขา ดังนั้นคนนั้นยังไม่ได้รับผลเมื่อไหร่ ตัวของคนที่คอยโมทนาบุญเขาก็จะไม่ได้รับผลตามนั้น สู้ทำเองไม่ได้
              ดังนั้นมีวิธีไหนบ้างที่จะแนะนำให้ท่านทำเป็นต้นว่า อาจจะเปิดเทปธรรมะ วีซีดีธรรมะ หรือว่าหนังสือธรรมะเอาวาง ๆ ทิ้ง ๆ ให้มันเกะกะลูกตาท่านเล่น ถ้าวันไหนท่านหยิบขึ้นมา เออ! ค่อยยังชั่วหน่อย ถ้าวันไหนท่านไม่หยิบขึ้นมาอ่านก็ไม่ต้องไปเคี่ยวเข็ญท่าน แต่ใช้วิธีทำที่ตัวเรา ถ้าตัวเขาตั้งใจปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนา แล้วมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเห็นได้ชัดเจน เป้ฯอันว่าไม่กลับบ้านดึก มากเอาแค่ตี ๒ ก็พอ ถึงเวลาท่านว่าก็ไม่เถียง รู้จักเก็บออมถนอมคำ ไม่โกรธใคร ไม่ว่าใครง่าย ๆ พอมันมีความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีเห็นได้ชัด เดี๋ยวท่านสนใจถามขึ้นมา ถ้าท่านสนใจแล้วถามขึ้นมา อีตอนนั้นเสร็จเราแน่ ๆ เลยจะจูงไปทางไหนก็ไปแล้วแต่
              คราวนี้ตัวเราสามารถทำได้ไหมว่า ให้มันมีผลที่ดีที่ท่านเห็นอย่างชัดเจน ตรงจุดนั้นมันต้องอาศัยความอดทน แล้วก็ให้ทำสม่ำเสมอ ถ้าเป็นภาษาพระต้องมีขันติบารมี คืออดทนพอ มีสัจจบารมีคือความตั้งใจจริงมากพอ ไหวไหมล่ะ ?
      ถาม :  ทำก่อนนอนได้ไหมคะ ?
      ตอบ :  ก่อนนอนได้จ้ะ และตื่นนอนเอาอีกนิดหนึ่ง ตั้งใจว่าตอนนี้เราจะนอนแล้ว ถ้าเหตุร้ายใด ๆ จะพึงมีพึงเกิดขึ้น ขอบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ช่วยปกปักษ์รักษาปัดเป่าให้ผ่านพ้นไป ขอให้ครอบครัวของเรามีความสุข ขอให้คุณพ่อคุณแม่มีความสุข ก้าวเข้ามาในทางธรรมะเร็ว ๆ
              พอตื่นนอนก่อนจะไปทำงานก็เหมือนกัน สวดมนต์ไหว้พระเสียหน่อย เราจะไปทำการทำงานแล้วอันตรายใด ๆ ที่จะพึงมีพึงเกิดก็อย่าให้เกิดขึ้นเลย ด้วยอำนาจของพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ขอให้ปัดเป่ามันพ้นจากเราไป ขอให้ประสบแต่สิ่งที่ดี ๆ ขอได้จ้ะ เพียงแต่ว่าต้องทำให้พอ ถ้าทำพอเมื่อไหร่สิ่งที่เราขอมันจะได้ ถ้าทำไม่พอยังไม่ได้หรอกจ้ะ หาสตางค์ได้ ๒,๐๐๐ แล้วไปซื้อเบนซ์ไม่ได้หรอก ต้องรอให้ครบล้านแปดก่อน ต้องขยันสะสมความดีไว้เรื่อย ๆ จ้ะ